ชาเขียวพรีเมียม และ ชาเขียวมัทฉะ
“ชา” เป็นเครื่องดื่มที่กำลังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องและมีแนวโน้มการบริโภคที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในปัจจุบันการผลิต “ชาเขียว” ในรูปแบบของการเป็นเครื่องดื่มสำเร็จรูปก็มีจำหน่ายกันอย่างแพร่หลาย ทำให้สะดวกต่อการบริโภค และด้วยรสชาติที่อร่อย ทำให้รู้สึกสดชื่น รวมไปถึงการโฆษณาของผลิตภัณฑ์ชาเขียว หรือมีข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับสรรพคุณของการดื่มชาเขียวที่มีต่อร่างกายมากมายเหล่านี้ จึงเป็นแรงจูงใจทำให้กระแสการบริโภคชาเขียวเพิ่มขึ้น จนอาจก่อให้เกิดพฤติกรรมการบริโภคที่ไม่เหมาะสม หรือบริโภคในปริมาณที่สูงเกินไปโดยไม่ทราบถึงผลกระทบต่อร่างกาย
ดังนั้นผู้บริโภคจึงควรทราบถึงข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับชาเขียว ว่าจะต้องเลือกบริโภคอย่างไรถึงจะได้ประโยชน์อย่างสูงสุด และไม่ส่งผลเสียต่อร่างกาย
สรรพคุณของชาเขียว
- ชาเขียวถูกนำมาใช้ในการรักษาตั้งแต่โรคปวดศีรษะไปจนถึงโรคซึมเศร้า ซึ่งในประเทศจีนมีการใช้ชาเขียวเป็นยามามากกว่า 4,000 ปีแล้ว
- ช่วยทำให้เจริญอาหาร
- แก้เมาเหล้า ทำให้สร่างเมา
- ช่วยแก้หวัด แก้ร้อนใน ช่วยขับเหงื่อ ขับสารพิษตกค้าง
- ช่วยให้ผ่อนคลายอารมณ์ สงบประสาท ระบายความร้อนจากศีรษะและเบ้าตา ทำให้สดชื่น ตาสว่าง ไม่ง่วงนอน และช่วยทำให้หายใจสดชื่น
- ช่วยแก้อาการกระหายน้ำ ระบายความร้อนออกจากปอด และช่วยขับเสมหะ
- ช่วยแก้บิด ท้องร่วง ท้องเสีย
- ช่วยเพิ่มแบคทีเรียชนิดดีในลำไส้ จึงสามารถช่วยล้างสารพิษและกำจัดพิษในลำไส้ได้
- ช่วยป้องกันตับจากพิษและโรคอื่น ๆ
- ช่วยป้องกันการเกิดลิ่มเลือด
- ชาเขียวมีฤทธิ์ต้านอาการอักเสบ ต้านเชื้อจุลินทรีย์ในลำไส้ ต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัส ต้านเชื้อ Botulinus และเชื้อ Staphylococcus
- ช่วยขับปัสสาวะ ป้องกันนิ่วในถุงน้ำดีและในไต
- ช่วยในการห้ามเลือดหรือทำให้เลือดไหลช้าลง
- ใช้เป็นยาพอกรักษาแผลอักเสบ แผลพุพอง ไฟไหม้ ฝีหนอง ช่วยบรรเทาอาการผดผื่นคัน ผิวร้อนแห้ง แมลงสัตว์กัดต่อย และยังใช้เป็นยากันยุงได้อีกด้วย
- ชาเขียวสามารถช่วยป้องกันโรคข้ออักเสบรูมาติก (Rheumatic arthritis) ซึ่งมีอาการอักเสบบวมแดง ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อและข้อต่อ ที่มักเกิดกับสตรีวัยกลางคน
วิธีการชงชาเขียว
การชงชาเขียว ถ้าหากชงไม่ดีหรือชงนานเกินไป สารโพลีฟีนอลจะเป็นตัวทำลายรสชาติของชาจนทำให้ชามีรสชาติเหมือนหญ้าได้ ดังนั้นจึงไม่ควรชงชาเขียวนาน ๆ การชงชาเขียวให้มีรสชาติที่ดีนั้นมีเคล็ดลับง่าย ๆ ก็คือ ให้ใช้ชา 1 ถุง (ประมาณ 2-4 กรัม) ต่อถ้วย นำมาชงในน้ำเดือด ทิ้งไว้ประมาณ 3 นาที จากนั้นให้เทน้ำร้อนลงบนถุงชา และทิ้งไว้อีก 3 นาที แล้วค่อยนำถุงชาออก และปล่อยให้ชาเย็นลงอีกประมาณ 3 นาที
สูตรชาขียว บลูมอคค่า
ชาเขียว กับ ชาเขียวมัทฉะ
ชาเขียวมัทฉะเป็นชาเขียวที่คนไทยนิยมดื่ม สามารถทำเป็นเครื่องดื่มได้หลายแบบทั้งแบบร้อน เย็น และปั่น แต่หลายท่านอาจยังสับสนระหว่างชาเขียวและชาเขียวมัทฉะ มาดูกันว่าชาเขียวทั้ง 2 มีความแตกต่างกันอย่างไร
ชาเขียว
เป็นชาที่ไม่ผ่านกระบวนการหมัก ผลิตมาจากยอดใบชาเขียว นำเข้าสู่กระบวนอบไอน้ำ คั่ว และอบแห้ง จนเป็นใบชาเขียวแห้ง มีสีเขียวถึงเขียวอมเหลือง ชาเขียวสำเร็จรูปมี 2 แบบ คือ แบบซองและแบบใบอบแห้ง
ผงชาเขียวมัทฉะ
ผลิตจากชาเขียวที่ผ่านกระบวนการอบแห้งมาแล้ว นำไปบดจนได้เป็นผงชาเขียวละเอียด จึงมีความเข้มข้นของชาเขียวสูง และเมื่อนำไปทำเป็นเครื่องดื่มจะได้สี กลิ่น และรสชาติที่เข้มข้น จึงนิยมนำไปทำเป็นน้ำชาเขียว ชาเขียวนม ชาเขียวปั่น และเบเกอร์รี่ต่างๆ
วิธีการชงชาเขียวมัทฉะ
ชาเขียวมัทฉะ แต่ละยี่ห้อจะมีกลิ่นและสีที่ไม่เหมือนกันขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ของชาเขียว เช่น ในไทยจะนิยมปลูกชาเขียวสายพันธุ์อัสสัมเพราะสายพันธุ์นี้เหมาะกับภูมิอากาศ ดิน และน้ำของไทย แต่ให้รสชาติไม่แตกต่างจากชาเขียวสายพันธุ์ญี่ปุ่น เมนูชาเขียวที่คนไทยนิยมดื่มมีอยู่หลายแบบ ได้แก่
แจกฟรีสูตรชง ชาเขียวพรีเมียม และ ชาเขียวมัทฉะ
ชาเขียวมัทฉะร้อน
ชาเขียวมัทฉะร้อนเป็นเมนูที่นิยมดื่มในร้านอาหารญี่ปุ่น เมื่อดื่มคู่กับการทานอาหารญี่ปุ่นจะช่วยให้เจริญอาหารมากขึ้น
ส่วนประกอบ
- ผงชาเขียว 1 ช้อนชา
- น้ำร้อน 150 มิลลิลิตร
วิธีทำ
- ผสมชาเขียวลงในน้ำร้อน
- คนให้ผงชาเขียวละลาย
มัทฉะลาเต้ร้อน
มัทฉะลาเต้ร้อน หรือชาเขียวมัทฉะร้อนแบบใส่นม เป็นเมนูที่นิยมดื่มในร้านเบเกอร์รี่คู่กับขนมต่างๆ
ส่วนประกอบ
- ผงชาเขียว 2 ช้อนชา
- น้ำร้อน 50 มิลลิลิตร
- น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
- ครีมเทียม 1/2 ช้อนโต๊ะ
- นมข้นหวาน 1/2 ช้อนโต๊ะ
- นมสด 100 มิลลิลิตร
วิธีทำ
- ผสมชาเขียวลงในน้ำร้อน คนให้ผงชาเขียวละลาย
- เติมน้ำตาล ครีมเทียม นมข้นหวาน คนจนละลายเข้ากัน
- เติมนมสด
ชาเขียวนมสด
ส่วนผสม
– ผงชาเขียว 4 ช้อนโต๊ะ
– น้ำร้อน 750 ml.
– นมข้นหวาน ตามใจชอบ
– น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
– นมสด
– วิปปิ้งครีม
– น้ำแข็ง
วิธีทำ
1. นำผงชาเขียวใส่ในถุงกรองชา แช่ในน้ำร้อน ประมาณ 3-5 นาที (อย่าแช่นาน ชาจะขม รสเฝื่อน) จะเหลือน้ำชาประมาณ 600 ml.
2. ใส่น้ำตาลทรายลงไป คนให้ละลาย
3. เติมนมข้นหวานลงไปตามใจชอบ คนให้เข้ากัน (ให้น้ำชาเขียวหวานกว่าที่ชอบนิดหน่อย ต้องไปผสมกับนมสดและน้ำแข็ง)
4. ตักน้ำแข็งใส่แก้ว ให้ล้นแก้วนิดหน่อย
5. ใส่นมสดลงไป 2/3 แก้ว หรือตามใจชอบ (ใครชอบกลิ่นชาเขียวแบบเข้มข้น ให้ลดปริมาณนมสดลง)
6. เทน้ำชาเขียวลงไป
7. บีบวิปปิ้งครีมตกแต่ง
ปล. สูตรนี้ได้ปริมาณ 2-3 แก้ว