แต่งร้านกาแฟยังไงดี ไอเดียแต่งร้านกาแฟ
แต่งร้านกาแฟยังไงดี ไอเดียแต่งร้านกาแฟ
ปัจจุบัน ธุรกิจร้านกาแฟ ถือเป็นธุรกิจที่น่าสนใจอย่างหนึ่ง เพราะเป็นธุรกิจที่อยู่ในกระแสยอดนิยมของคนไทย หลายคนหลงใหลในกลิ่นอาย และบรรยากาศของร้านกาแฟเป็นอย่างมาก และอยากจะมีร้านกาแฟเป็นของตัวเองแล้วหล่ะก็….
ลองมาดูกันว่าจะเปิดร้านกาแฟในฝันให้เป็นจริงได้นั้น แค่มีเทคนิค ขั้นตอนและการเตรียมตัวที่ดีง่ายๆ เท่านี้เอง โดยการสร้างสไตล์ร้านให้โดนใจ ซึ่งสไตล์ยอดนิยมของคนไทยหลักๆ นั้นจะมีดังนี้
แต่งร้านกาแฟยังไงดี ไอเดียแต่งร้านกาแฟ
สไตล์วินเทจเป็นอีกสไตล์หนึ่งที่มาแรงมากในยุคนี้ ด้วยการที่มีการผสมผสานกันระหว่างความคลาสสิกของยุคก่อนกับยุคใหม่ เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีลักษณะย้อยยุค ยิ่งเก่ายิ่งดี สีที่นิยมนำมาใช้กัน ก็จะเป็นสีขาว ครีม เหลือง บางคนอาจจะใช้สีพาสเทล เน้นสีที่ออกมาดูแล้วสบายตา
สามารถหาซื้อของตกแต่งร้านได้จากแหล่งขายของเก่า อย่างเช่น ตลาดนัดรถไฟ หรือ จตุจักร ซึ่งร้านสไตล์วินเทจนี้ ค่าทำร้านจะอยู่ที่ประมาณ 10,000 -13,000 บาท เช่น ร้านขนาด 30 ตรม. x 13,000 = 390,000 บาท + ค่าอุปกรณ์ทำกาแฟประมาณ 100,000 บาท + ค่าอุปกรณ์ตกแต่งร้านประมาณ 200,000 (ซึ่งของเก่าบางชิ้นอาจมีราคาสูงมาก หากเป็นของหายาก หรือเลิกผลิตไปแล้ว) รวมค่าใช้จ่ายการทำร้านทั้งหมดประมาณ 690,000 บาท
สไตล์Garden อีกหนึ่งเทรนที่มาแรงเอาใจคนรักธรรมชาติเป็นที่สุด จุดเด่นของร้านคือต้นไม้ เป็นการจัดสวนหลากหลายสไตล์ ทั้งสวนอังกฤษ สวนทรอปิคอล สวนน้ำตก สวนกระถาง เพื่อให้คนนั่งได้สูดอากาศบริสุทธิ์จากทางร้าน ผ่อนคลายไปกับเสียน้ำตก หรือเสียงใบไม้ไหว เพิ่ม inspiration
ในการทำงานได้เป็นอย่างดี โทนสีเฟอร์นิเจอร์เน้นขาว สะอาดตา หรือตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ก็เข้ากันดีเป็นทีสุด ให้ความรู้สึกเหมือนเรานั่งอยู่ในสวนที่บ้านนั้นเอง
ต้นทุนในการทำร้านสไตล์ Garden แบบนี้ การก่อสร้างร้านก็อยู่ที่ประมาณ 9,000 – 12,000 บาท/ตรม. เช่น พื้นที่ร้านขนาด 30 ตรม. x 12,000 บาท = 360,000 บาท + ค่าอุปกรณ์ทำกาแฟประมาณ 100,000 บาท + ค่าอุปกรณ์ตกแต่งร้านประมาณ 200,000 + ค่าต้นไม้และอุปกรณ์ในการแต่งสวน 70,000 บาท รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดประมาณ 730,000 บาท
สไตล์ลอฟท์ แบบร้าน เท่ๆ คูลๆ โชว์ความดิบของปูนเปลือย แบบไม่ต้องทาสีใดๆ เลย บรรยากาศในร้านจัดแต่งแบบเรียบง่าย เน้น โล่ง โปร่ง สบาย เพิ่มดีไซน์ด้วยสีเฟอร์นิเจอร์โทนอุ่น เช่น น้ำตาล ดำ หรือแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ก็ลงตัวแบบสุดๆ หรือหากใครอยากได้ความเก๋
อาจฉาบปูนให้เป็นลวดลายต่างๆ เพื่อเพิ่มเอกลักษณ์ของร้าน หรือขัดมันสักนิดก็สร้างความเท่ได้ไม่น้อยเลย สไตล์นี้มักนิยมโชว์ระบบการเดินท่อ ,ท่อเดินสายไฟฟ้า ฯลฯ เพื่อโชว์ความอาร์ตกันแบบเต็มที ถือเป็นกผสมผสานความดิบที่ลงตัวแบบมีศิลปะอีกสไตล์หนึ่งจริงๆ ซึ่งการลงทุนแต่งร้านสไตล์ลอฟท์ จะอยู่ประมาณที่ 8,000 – 12,000 บาท/ตรม. เช่น พื้นที่ร้าน 30 ตรม.x 12,000 = 360,000 บาท รวมอุปกรณ์ทำกาแฟ และ ของตกแต่งร้านอีกประมาณ 300,000 บาท รวมทั้งหมดประมาณ 660,000 บาท
แต่ละสไตล์ก็จะมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับว่าเราชอบสไตล์ไหนเป็นการส่วนตัวก็เลือกสไตล์นั้นได้เลย อาจหาจุดเด่นของร้านตรงส่วนอื่นๆ เช่น มีมุมถ่ายรูป หรือการทำสัญลักษณ์ประจำร้านให้เป็นที่จดจำ
เป็นดีไซน์เฉพาะของร้านที่ไม่เหมือนใคร ถือเป็น Signature ของร้านตัวเองไปได้เลย ส่วนต้นทุนในการทำร้านก็ขึ้นอยู่กับว่าต้องการขนาดร้าน, เกรดของวัสดุ, อุปกรณ์ และค่าตกแต่ง มากน้อยขนาดไหน ซึ่งอาจจะแพงกว่า หรือถูกกว่าที่ยกตัวอย่างมาก็ได้ นอกจากนี้การเลือกทำเลที่ตั้งก็สำคัญ การเลือกทำเลหลักๆของร้านกาแฟแบ่งได้ตามแหล่งชุมชนหลักๆดังนี้
ออฟฟิศ การเลือกเปิดร้านกาแฟแถวออฟฟิศ หรือย่านสำนักงานออฟฟิศที่มีกลุ่มลูกค้าที่เป็นคนทำงาน มีการใส่บริการเสริมฟรี เช่น หนังสือพิมพ์ นิตยสาร มี WiFi ส่วนค่าเช่าพื้นที่ก็มีตั้งแต่ประมาณ 10,000 – 60,000 บาท/เดือน ขึ้นอยู่กับทำเล ซึ่งย่านที่เป็นแหล่งออฟฟิตก็มีหลายที่ เช่น สาทร, สีลม, อโศก , เพลินจิต ,รัชดา ,ชิดลม หรือลาดพร้าว เป็นต้น
สถานศึกษา การตกแต่งร้านอาจจะเน้นไปในแนววินเทจ ดูน่าสนใจ เพราะเป็นแนวที่ชื่นชอบในกลุ่มวัยรุ่น ในร้านอาจจะจัดตกแต่งให้มีมุมอ่านหนังสือด้วยการจัดวางชั้นหนังสือขนาดใหญ่ตามจุดต่างๆ มีหนังสือน่าอ่านมากมาย หรือจะเพิ่มเติมด้วยการตกแต่งบรรยากาศให้มีมุมถ่ายรูป
เพื่อสร้างจุดเด่นให้เกิดความน่าสนใจให้กับทางร้านก็ได้เช่นเดียวกัน ส่วนค่าเช่าพื้นที่ก็มีตั้งแต่ประมาณ 6,000 – 40,000 บาท/เดือน ขึ้นอยู่กับทำเล หากต้องการราคาเช่า ไม่สูงมาก ควรเลือกมหาวิทยาลัยที่อยู่ตามชานเมือง และควรเลือกทำเลที่ใกล้หอพักนักศึกษา ซึ่งถือว่าเป็นทำเลที่ค่อนข้างดี
Mall ทำเลนี้ก็ค่อนข้างน่าสนใจ เพราะเป็นศูนย์รวมของร้านค้า ร้านอาหารแปลกใหม่ มีสไตล์ ที่แตกต่างจากในห้างสรรพสินค้า กลุ่มเป้าหมายหลัก จะเป็นลูกค้าอายุระหว่าง 15-35 ปี มีรายได้ปานกลางถึงสูง
และยังเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่สนใจแนวทางการดำรงชีวิตแบบคนรุ่นใหม่ ไม่อยู่ในกรอบ สนใจเทรนด์ใหม่ๆ เหมาะสำหรับการทำร้านกาแฟที่มีสไตล์ร้านที่แปลกใหม่ ไม่ซ้ำใคร ซึ่ง Community Mall กำลังจะเปิดใหม่ก็มีหลายที่ อย่างเช่น The Wish สามพราน, Happy Avenue ดอนเมือง, The Phyll สุขุมวิท 54 เป็นต้น