ร้านกาแฟขนาดเล็ก เพิ่มยอดขายยังไง
เมื่อพูดถึงกิจกรรมส่งเสริมการขายเพื่อเพิ่มยอดขาย แน่นอนว่าทุกคนต้องรู้จักคำๆนี้แน่นอน การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายเป็นส่วนหนึ่งใน การเพิ่มลูกค้าช่วยส่งเสริมการขายทำให้ยอดขายเพิ่มมากขึ้น แต่จะทำอย่างไร วันนี้ bluemocha มีเทคนิคง่ายๆมาเป็น Tips เล็กๆในการทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น การสร้างกิจกรรมส่งเสริมการขายหรือเรียกอีกอย่างว่า โปรโมชั่น เป็นการสร้างกลุ่มลูกค้าทำให้ลูกค้าที่มีอยู่แล้วเหนียวแน่นขึ้น และยังสามารถสร้างกลุ่มลูกค้าใหม่ได้ด้วยดังนี้
ร้านกาแฟขนาดเล็ก เพิ่มยอดขายยังไง
- การทำบัตรสมาชิกเพื่อสะสมแต้ม เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดที่จะเพิ่มยอดขาย และดึงดูลูกค้า ยังเป็นวิธีที่ผู้ขายส่วนใหญ่นิยมใช้กัน การทำบัตรสมาชิกเพื่อสะสมแต้มเป็นการช่วยให้จับกลุ่มลูกค้าธรรมดาให้กลายเป็นลูกค้าประจำได้ วิธีการง่ายๆในการทำบัตรสมาชิกเพื่อสะสมแต้ม เช่น บัตรสมาชิกใช้สะสมแต้ม มีแต้มให้สะสมทั้งหมด 30 แต้ม ควรแยกเป็น 10แต้มแรกจะแลกได้เครื่องดื่มชนิดใดในร้านก็ได้ 1 แก้วหรือใช้เป็นส่วนลดเมนูในร้าน 20 แต้มก็ควรจะเป็นของที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อยอย่างเช่น แก้วเก็บความร้อน-เย็น สุดท้าย 30 แต้ม ควรจะเป็นของที่ดึงดูดใจลูกค้าให้มากที่สุด อย่างเช่น Power Bank รูปแบบน่ารักๆ หรือ ชุดเซตแก้วกาแฟ เป็นต้น สำหรับเทคนิคนี้ ข้อควรระวังคือ ควรเลือกของแถมให้โดนใจลูกค้าหรือตามเทศกาลต่างๆ จะมีโอกาสเพิ่มยอดขายได้ง่ายๆเลยทีเดียว
- การจัดแพ็คเกจขายคู่ การส่งเสริมการขายข้อนี้เป็นการนำเมนูในร้านมาจับคู่ให้เข้ากัน ไม่ว่าจะเป็น ชากับชา หรือ ชากับขนมที่มีอยู่ในร้าน เทคนิคคือ การจับคู่เครื่องดื่มกับขนมที่สามารถทานเล่นเบาๆได้ และยั่งช่วยให้ลูกค้าอิ่มท้องด้วยของว่างเบาๆได้ โดยส่วนใหญ่ที่ลูกค้ามากินกาแฟหรือชาแล้วก็อาจจะอยากกินอะไรสักอย่างหนึ่ง จำพวกขนมหรือเบเกอรี่ แต่ในใจลูกค้าอาจจะคิดว่า ตอนนี้ยังไม่ค่อยหิวหรือเมื่อนำ2เมนูนี้มารวมกันแล้วอาจมีราคาสูง จึงเลือกที่จะสั่งอย่างใดอย่างหนึ่งแทน แต่ถ้าหากเราจัดแพ็คเกจคู่ที่โดนใจลูกค้าได้แล้วนั้นจะเป็นการช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกซื้อได้ง่ายมากขึ้น
ตัวอย่างเช่น การนำเครื่องดื่ม สมมติว่าเป็น ชาเขียวมัทฉะ ราคา 50 บาท + บราวน์นี่ ราคา 35 บาท ราคารวม 85 บาท เราก็นำมาจับคู่เป็นแพ็คเกจ“คู่อิ่มท้องราคาเพียง 80 บาท” หรือ ชามะลิราคา 40 บาท + โดนัท ราคา 20 บาท ราคารวม 60 บาท เราก็นำมาจับคู่ขายแล้วตั้งชื่อให้ดูจูงใจลูกค้า เช่น “อิ่มสุดคุ้ม” แล้วขายในราคา 55 บาท เป็นต้น
วิธีการง่ายๆก็คือ หาคู่ที่คิดว่าเข้ากันสัก 2-3 คู่ เช่น เครื่องดื่มร้อน+ขนม เครื่องดื่มเย็น + ขนม หรือ กาแฟ + ชา แล้วตั้งชื่อให้ดูดึงดูดหน้าสนใจ จากนั้นกำหนดราคา ( ให้ราคาต่ำกว่าซื้อแยกชิ้นสัก 2-5 บาท ) หรือตามความเหมาะสม และสุดท้ายคือวิธีการพูด เช่น “วันนี้ชาเขียวมัทฉะทางร้านเรามีแพ็คเกจขายคู่กับ บราวน์นี่ ในราคาเพียง 85 บาทนะคะไม่ทราบว่าจะรับคู่กันเลยไหมคะ อิ่มอยู่ท้องพอดีเลยนะคะ” ซึ่งเราสามารถพิจารณาได้เองว่าทำอย่างไรให้คุ้มค่าที่สุด โดยคำนวณจากต้นทุนละรายการขาย และโอกาสเป็นไปในทิศทางใด
- คำแนะนำจากพนักงาน เป็นวิธีที่แทบจะไม่ต้องลงทุนอะไรเลย เพียงแค่ให้พนักงานอธิบายหรือแนะนำเมนูตัวต่อตัวกับลูกค้าซึ่งลูกค้าสามารถสอบถามรายละเอียดได้ทุกเมื่อ และยังทราบว่าลูกค้าชอบรสชาติแบบไหน หากเราทราบว่าลูกค้าทานรสชาติแบบไหน แล้วเราทำได้ถูกปากลูกค้ามันก็ไม่ยากเลยที่จะได้ลูกค้าประจำเพิ่มขึ้นอีก นอกจากวิธีนี้จะเป็นวิธีช่วยเพิ่มยอดขายได้แล้ว ยังช่วยให้พนักงานและลูกค้ารู้จักกันมากขึ้นด้วย แต่ก็มีข้อควรระวังอยู่บ้าง เพราะการสื่อสารของพนักงานแต่ละครั้งแต่ละคนแตกต่างกัน อาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดได้ เช่น การพูดเร็วเกินไป การไม่เข้าใจในตัวสินค้า หรือการอธิบายโปรโมชั่น-เมนูผิด ดังนั้นก่อนจะใช้วิธีนี้ควรเทรนด์ พนักงานอย่างดีด้วยเพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด หรือผิดพลาดน้อยที่สุด
4. Social media เป็นช่องทางที่มาแรงสุดๆในขณะนี้ฉะนั้นเจ้าของร้านไม่ควรมองข้าม เพราะเรียกได้ว่าแทบจะเป็นช่องทางหลักในการทำตลาดทั้งก่อนและหลังเลยก็ว่าได้ เทคนิคการใช้Social media ในการเพิ่มยอดขายอย่างเช่น การโพสภาพ ข้อมูลร้าน หรือ โปรโมชั่น ลงเพจหรือเว็บไซต์อย่างสม่ำเสมอ แต่การโพสเป็นประจำแล้วไม่มีคนดูก็ไม่เกิดประโยชน์ ฉะนั้นเมื่อลูกค้าก้าวเข้าร้านแล้ว ลองมีโปรโมชั่นเล็กๆน้อยๆ ดึงดูดให้ลูกค้ามาเช็คอินที่ร้าน หรือกดไลค์กดแชร์ เพื่อให้เขาได้รับข่าวสารจากคุณอย่างสม่ำเสมอ
5. เพิ่มยอดขายด้วยวิธีการ มีบริการส่งถึงที่ วิธีนี้ควรกำหนดเวลาและสถานที่ชัดเจนหากคุณไม่กำหนดเวลาและสถานที่ ที่ชัดเจนแล้วอาจทำให้คุณเสียเวลาเสียเองอีกด้วย ถ้าคุณอยู่ใกล้บริษัทหรือหน่วยงานรัฐวิธีนี้ถือว่าเป็นวิธีที่ดีเลยทีเดียว เพราะคนในปัจจุบันต้องการความรวดเร็วใช้เวลาให้เร็วที่สุด หากร้านเรามีบริการส่งถึงที่นั้นก็หมายความว่าลูกค้าเหล่านี้ก็ไม่จำเป็นต้องไปมองหาร้านอื่นอีกต่อไป ในเมื่อมีบริการมาส่งถึงที่อีกทั้งลูกค้าไม่จำเป็นต้องไปตระเวรหาที่จอดรถให้เสียเวลาอีกด้วย
6. การทำเมนูใหม่ๆ หรือ เพิ่มเมนูใหม่ๆเข้ามา การอยากรู้อยากลองเป็นความต้องการของมนุษย์อยู่แล้วเพียงแค่ต้องการการกระตุ้นเท่านั้น หากร้านเรามีเมนูใหม่หรือ การรวมเมนูที่มีอยู่แล้วให้เกิดเมนูใหม่ๆได้ นั้นเป็นวิธีที่ดีทีเดียวในการดึงดูดลูกค้าใหม่ที่อยากลองสิ่งใหม่ๆ อย่างเช่น เมนูที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน อย่าง ชาอัญชัน ชามะลิ หรือ ชากุหลาบ และเมนูชาน้องใหม่ อย่าง ชาพีช และ ชาเบอร์รี่ หากร้านเรานำมาตีตลาดก่อนก็นับได้ว่าได้ลูกค้าก่อนเจ้าอื่นๆเลยทีเดียว
