เรื่องสำคัญควรรู้ก่อนออกแบบร้านชากาแฟ
ก่อนจะเริ่มธุรกิจร้านอาหาร หลายคนคงได้วาดภาพร้านสวย ๆ ในสไตล์ที่ตัวเองต้องการไว้ในใจแล้ว แต่จะออกแบบร้านอาหารให้สวยอย่างเดียวคงไม่พอ เพราะต้องตอบโจทย์ทั้งการมอบประสบการณ์และบรรยากาศแก่ลูกค้า ไปจนถึงความสะดวกปลอดภัยในการทำงานของพนักงานด้วย เรื่องสำคัญที่ไม่ควรละเลยในการออกแบบร้านอาหารจะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย!
เรื่องสำคัญควรรู้ก่อนออกแบบร้านชากาแฟ
1.เคานท์เตอร์
เคาน์เตอร์ต้อนรับหรือเคาน์เตอร์รับออเดอร์เปรียบเสมือนด่านแรกในการสร้างความประทับใจ แน่นอนว่ารอยยิ้มคือสิ่งสำคัญ คงไม่มีลูกค้าคนไหนที่อยากเดินเข้ามาแล้วพบกับพนักงานหน้าตาบึ้งตึงไม่ต้อนรับลูกค้า แต่อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือ การออกแบบเคาน์เตอร์ต้อนรับให้สวยงาม สมกับการเป็นจุดแรกๆ ที่ลูกค้าจะมองเห็น
นอกจากเรื่องความสวยงามแล้ว ควรออกแบบให้พนักงานทำงานได้สะดวก พื้นที่เพียงพอต่อการทำงาน ไม่เล็กเกินไปจนกลายเป็นตู้ล็อกเกอร์แคบๆ เคาน์เตอร์ต้อนรับควรสะอาดและเป็นระเบียบ เพื่อให้การทำงานคล่องแคล่ว หลายๆ ร้านมีเคาน์เตอร์ต้อนรับเป็นเคาน์เตอร์จ่ายเงินไปในตัว หากพนักงานทำงานได้สะดวกรวดเร็วก็จะช่วยให้ลูกค้าไม่ยืนรอแออัดกันบริเวณนั้น จนดูเป็นภาพที่วุ่นวายตั้งแต่หน้าร้านได้
สิ่งของที่วางอยู่ในบริเวณนั้นควรเป็นสิ่งของจำเป็น จัดวางไว้ให้หยิบจับได้สะดวก เช่น สมุดจดคิวลูกค้า ปากกา ถาดรองเงิน เป็นต้น เรื่องของแสงสว่างเองก็สำคัญไม่แพ้กัน เมื่อเป็นจุดต้อนรับลูกค้าแล้ว ควรจัดให้มีแสงไฟเพียงพอและมองเห็นพนักงานที่คอยยิ้มต้อนรับได้ชัด เพราะเหนือกว่าการออกแบบและการตกแต่งที่ดี พนักงานคือคนที่สำคัญยิ่งกว่าสิ่งเหล่านั้น
2.แผนผังร้าน
การวางแผนผังร้านเป็นหนึ่งในเรื่องสำคัญที่สุดของการออกแบบร้านอาหาร เคาน์เตอร์บาร์ควรอยู่ตรงไหน ตำแหน่งของโต๊ะอาหารต่างๆ หรือแม้แต่ตำแหน่งทางเดินเข้าออกไปยังโซนครัว ในขั้นตอนนี้ทางเจ้าของร้านควรทำงานร่วมกับสถาปนิกและมัณฑนากรผู้เชี่ยวชาญ
การวางแผนผังร้านนั้นไม่ได้ทำเพื่อความสวยงามเพียงเท่านั้น แต่ยังเป็นการคำนวณว่าเราจะพื้นที่ในแต่ละส่วนอย่างไร สัดส่วนของโต๊ะอาหารในร้านควรเป็นเท่าไหร่และคำนึงเรื่องทางเดินภายในร้านที่กว้างพอสำหรับการทำงานของพนักงาน สามารถเดินเสิร์ฟอาหารได้คล่องแคล่ว ไม่ชนโต๊ะหรือเดินเบียดเมื่อต้องสวนทางกัน
หนึ่งปัญหาที่หลายคนมักจะพบในการวางผังร้านอาหารคือ พื้นที่ภายในร้านไม่เพียงพอต่อจำนวนโต๊ะ ทำให้บางครั้งตำแหน่งของโต๊ะอาหารมักจะหลุดมาอยู่ในบริเวณที่พนักงานต้องเดินผ่านไปมา กลายเป็นกีดขวางทางเดิน ทำให้ลูกค้าที่นั่งอยู่รู้สึกอึดอัดได้ เหตุการณ์เหล่านี้เป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง หากออกแบบแผนผังร้านไม่ดี จะส่งผลเสียต่อทั้งการทำงานของพนักงานและความพึงพอใจของลูกค้า
3.การตกแต่งภายใน
บางครั้งเราอาจเผลอลงเงินไปกับของตกแต่งร้านที่มากเกินพอดี และสุดท้ายกลับไม่ได้ช่วยสื่อถึงตัวตนของแบรนด์ได้เลย เมื่อตกแต่งร้านอาหารหรือคาเฟ่ สิ่งที่ควรคำนึงถึงคือเรื่องตัวตนของแบรนด์ หรือเรื่องราวที่ทางร้านอยากจะสื่อผ่านบรรยากาศ เพราะบรรยากาศของร้านอาหารช่วยเสริมเรื่อง Branding ได้เป็นอย่างดี
สิ่งที่เจ้าของร้านอย่างเราทำได้คือการอธิบายภาพในจินตนาการของเราออกมา อยากตกแต่งร้านเป็นแนวไหน ให้ตอบโจทย์กับเอกลักษณ์ของร้าน แสงไฟในร้านควรเป็นสีเหลืองนวลหรืออยากได้ไฟสลัวๆ สร้างบรรยากาศในอีกแบบ พยายามวางทุกอย่างเรียงต่อกันไปในแนวทางเดียวกัน เพื่อให้ภาพของร้านคุณออกมาสมบูรณ์สวยงาม บางคนอาจลงมือตกแต่งภายในเองหรืออาจส่งต่อภาพจินตนาการให้ทีมสถาปนิกและมัณฑนากรช่วยแต่งเติมสร้างไอเดียเหล่านั้นให้เป็นจริง
4.พื้นที่จัดเก็บขยะ
ตกแต่งร้านจนสวยงามดูดีแล้ว อย่าเผลอละเลยเรื่องพื้นที่จัดเก็บขยะหรืออาหารเหลือทิ้งต่างๆ คุณสมบัติพื้นฐานของร้านอาหารคือการเสิร์ฟอาหารที่ดีและมีคุณภาพแก่ลูกค้า ต่อให้หน้าตาอาหารจะดูสวยงามน่าทานแค่ไหน แต่หากเผลอปล่อยให้ลูกค้าเห็นพื้นที่หลังร้านหรือมุมจัดการอาหารเหลือทิ้งที่สกปรก ไม่เรียบร้อย คงไม่ใช่เรื่องดีแน่
การจัดการพื้นที่จัดเก็บขยะหรืออาหารเหลือทิ้งช่วยให้การทำงานของพนักงานสะดวกยิ่งขึ้น เลือกมุมจัดเก็บขยะให้อยู่ในจุดที่พ้นสายตาลูกค้า ไม่มีกลิ่นเหม็นรบกวน นอกจากเป็นเรื่องของภาพลักษณ์ที่ดีและไม่ทำลายบรรยากาศการทานอาหารของลูกค้าแล้ว หากทางร้านมีมุมจัดเก็บขยะที่เป็นระเบียบเรียบร้อย แต่ละถังแยกประเภทขยะชัดเจน จะช่วยให้พนักงานทำงานได้ง่ายและเร็วยิ่งขึ้น
5.พื้นที่ในระบบหลังร้าน
การวางระบบหลังร้านเป็นเรื่องสำคัญสำหรับร้านอาหารเป็นอย่างมาก เช่นเดียวกับการออกแบบพื้นที่ระบบหลังร้านอย่างโซนห้องครัวและสต็อกเก็บวัตถุดิบให้เชฟของคุณและพนักงานทุกคนทำงานได้สะดวก ร้านอาหารที่ไม่มีการวางระบบให้ชัดเจน ไม่ได้ควบคุมการทำงานอาจทำให้เสียวัตถุดิบไปเปล่าๆ จากความผิดพลาดได้
พื้นที่ในการทำงานของระบบหลังร้านมักจะเต็มไปความเร่งรีบ โดยเฉพาะช่วงที่ร้านอาหารเต็มแทบทุกโต๊ะ เพื่อการทำงานที่สะดวก ควรออกแบบพื้นที่ให้กว้างขวางพอ วัดขนาดทางเดินหรือระยะห่างในแต่ละส่วน ตู้เก็บวัตถุดิบควรเป็นแบบไหนถึงจะสะดวกต่อการใช้งาน จนไปถึงการวางระบบระบายอากาศ การดูดกลิ่น หรือระบบน้ำไฟต่างๆ ให้ถูกต้องเพื่อความปลอดภัยในการทำงาน พื้นที่ในครัวเป็นหนึ่งในบริเวณที่เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย มีทั้งอุปกรณ์ของมีคมหรือแม้แต่การใช้ไฟ เมื่อออกแบบพื้นที่ในส่วนนี้จึงควรคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยเป็นหลักด้วยเช่นกัน
