ดูข้อดีข้อเสียของ FoodDelivery 3 เจ้าใหญ่ ที่เจ้าของร้านกาแฟควรทราบ

ดูข้อดีข้อเสียของ FoodDelivery 3 เจ้าใหญ่ ที่เจ้าของร้านกาแฟควรทราบ

ปัจจุบัน มีบริการ Food Delivery Apps ให้เลือกใช้เพิ่มขึ้น ซึ่งแต่ละแอปฯ จะมีลักษณะการใช้งานคล้าย ๆ กัน แต่สิ่งที่แตกต่างกันคือ ค่าบริการ และจำนวนร้านอาหาร วันนี้ผู้เขียนจึงขอรวมแอปพลิเคชันยอดฮิต สำหรับสั่งซื้ออาหารเดลิเวอรี่ เพื่อให้ผู้อ่านตัดสินใจเลือกใช้แอปฯ ให้เหมาะกับตนเอง

ดูข้อดีข้อเสียของ  FoodDelivery 3 เจ้าใหญ่ ที่เจ้าของร้านกาแฟควรทราบ

Foodpanda

แอปพลิเคชันรูปหมีแพนด้าสีชมพู สามารถสั่งอาหารได้ทั้งในเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน มีอาหารให้เลือกหลายประเภท ที่สำคัญค่าจัดส่งราคาเดียวเพียง 40 บาทไม่บวกเพิ่ม เปิดบริการ 24 ชม.

ค่าบริการ

  • ค่าส่ง 40 บาททุกออเดอร์
  • มีภาษีมูลค่าเพิ่ม

วิธีการชำระเงิน

  • จ่ายเงินสด
  • Paypal
  • Credit card

วิธีการสมัคร

  • Email
  • Facebook

โปรโมชัน

  • Foodpanda โคกับแบรนด์อื่น ๆ ไว้ระดับหนึ่ง เช่น AIS dtac SCB และ KBank เป็นต้น หากใครใช้บริการแบรนด์เหล่านี้อยู่แล้วก็สามารถกดรับส่วนลดตามเงื่อนไขได้เลย

ฟังก์ชัน เมนูการใช้งาน

  • ฟังก์การใช้งานง่าย
  • มีรายละเอียดเกี่ยวกับร้านค้าบอกชัดเจน เช่น เวลาเปิด-ปิดของร้าน และรีวิวอาหาร
  • สามารถแจ้งเวลาจัดส่งอาหารได้ตามความสะดวก
  • มีอาหารหลากหลายแนวให้เลือกรับประทาน เช่น อาหารอเมริกัน อาหารเอเชีย เครื่องดื่ม อาหารจีน ของหวาน อาหารยุโรป อาหารฟาสต์ฟู้ด ฮาลาล อาหารเพื่อสุขภาพ อาหารอินเดีย อาหารอิตาเลียน อาหารญี่ปุ่น อาหารเกาหลี อาหารเมดิเตอร์เรเนียน อาหารเม็กซิกัน อาหารตะวันออกกลาง อาหารทะเล มังสวิรัติ อาหารเวียดนาม ข้อเสียคือ แม้จะมีหมวดอาหารให้เลือกเยอะ แต่ความหลากหลายของอาหารของในแต่ละหมวดมีไม่มากนัก

พื้นที่การให้บริการ

  • กรุงเทพฯ นนทบุรี สมุทรปราการ ปทุมธาณี เชียงใหม่ พัทยา ภูเก็ต หัวหิน
  • สามารถสั่งซื้ออาหารในอาณาเขตพื้นที่ให้บริการเท่านั้น ฉะนั้นไม่สามารถสั่งซื้ออาหารทุกอย่างได้แม้จะอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ

เวลาให้บริการ

  • เปิด 24 ชั่วโมง (เงื่อนไขการเปิดให้บริการขึ้นอยู่กับร้านค้า)
  • ใช้เวลาส่งไม่เกิน 40 นาที
ดูข้อดีข้อเสียของ  FoodDelivery 3 เจ้าใหญ่ ที่เจ้าของร้านกาแฟควรทราบ

Grab

แอปฯ นี้นอกจากจะบริการรับส่งผู้โดยสารแล้ว ยังมีบริการส่งอาหารเดลิเวอรี่อีกด้วย ซึ่งค่าบริการก็ถูกแสนถูกเริ่มต้นที่ 10 บาทเท่านั้น เปิดบริการ 24 ชม. แต่ข้อเสียคือ ไม่มีหมวดหมู่อาหารที่ชัดเจนและมีร้านอาหารให้เลือกน้อยมาก

ค่าบริการ

  • ระยะทาง 0-5 ก.ม. >> ค่าบริการส่งอาหาร 10 บาท
  • ระยะทางเกิน 5 ก.ม. >> ค่าบริการส่งอาหาร 10 บาท + 10 บาท/ก.ม. ตั้งแต่ก.ม.ที่ 6 ขึ้นไป
  • ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%

วิธีการชำระเงิน

  • จ่ายเงินสด
  • Alipay
  • Credit card

วิธีการสมัคร Grab

  • ต้องใช้เบอร์โทรศัพท์
  • Facebook
  • Gmail
  • Email

โปรโมชัน

  • โปรโมชันส่วนใหญ่เป็นส่วนลดอาหาร
  • มีโปรโมชันซื้อ 1 แถม 1 (ขึ้นอยู่กับร้านอาหาร)

ฟังก์ชัน เมนูการใช้งาน

  • ไม่มีหมวดอาหารให้เลือก

พื้นที่การให้บริการ

  • ใช้เวลาจัดส่ง 40 นาที

เวลาให้บริการ

  • เปิด 24 ชั่วโมง (เงื่อนไขการเปิดให้บริการขึ้นอยู่กับร้านค้า)
ดูข้อดีข้อเสียของ  FoodDelivery 3 เจ้าใหญ่ ที่เจ้าของร้านกาแฟควรทราบ

LINE MAN

แอปฯ นี้ขึ้นชื่อเรื่องอาหารเป็นอย่างมาก ซึ่งร้านอาหารส่วนใหญ่ได้รับการการันตีจาก Wongnai มีอาหารให้เลือกรับประทานเยอะที่สุด แต่ค่าส่งอาหารก็แพงที่สุดเช่นกันเมื่อเทียบกันทั้งหมด ด้านการชำระเงิน แอปฯ นี้ไม่รับบัตรเครดิต ใครไม่มีเงินสดอาจจะต้องมองข้ามแอปฯ นี้ไป

ค่าบริการ

  • ค่าส่งอาหารทั่วไป เริ่มต้นที่ 55 บาท ทุก 1 กิโลเมตร บวกค่าส่ง 9 บาท
  • ช่วงเวลา 22.00 – 23.59 บวกค่าส่ง 30 บาท
  • ช่วงเวลา 00.00 – 06.59 บวกค่าส่ง 100 บาท

วิธีการชำระเงิน

  • จ่ายเงินสด
  • Rabbit LINE Pay
  • ไม่รับ Credit card

วิธีการสมัคร

  • Log in ผ่านแอปฯ Line Man โดยใช้ Account ของ Line

โปรโมชัน

  • มีโปรโมชันส่วนลดอาหารพอสมควร มีส่วนลดค่าส่งขึ้นอยู่กับช่วงโปรโมชัน

ฟังก์ชัน เมนูการใช้งาน

  • มีหมวดอาหารให้เลือกทานเยอะ อาทิ อาหารมุสลิม อาหารไทย อาหารญีปุ่น อาหารเพื่อสุขภาพ อาหารเกาหลี และอาหารฝรั่งเศส เป็นต้น
  • มีฟังก์ชันการรีวิว จากผู้ใช้
  • อาหารหลากหลายราคา

พื้นที่การให้บริการ

  • กรุงเทพฯ

เวลาให้บริการ

  • เปิดบริการ 24 ชั่วโมง
  • ระยะเวลาจัดส่ง 40 – 50 นาที