วิธีที่ร้านชานมไข่มุกจะเพิ่มกำไรด้วยการเป็นพาร์ทเนอร์กับ FoodDelivery

วิธีที่ร้านชานมไข่มุกจะเพิ่มกำไรด้วยการเป็นพาร์ทเนอร์กับ FoodDelivery

Delivery เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญของคนทำธุรกิจอาหารที่มีข้อดีคือเพิ่มความสามารถในการแข่งขันกับคู่แข่งที่มีจำนวนมาก การมีตัวเลือกบริการที่หลากหลายทำให้โอกาสในการเข้าถึงลูกค้ามีมากขึ้น สามารถเพิ่มยอดขายให้กับร้านได้มากขึ้น Food Delivery มีการเติบโตขึ้นมาก วันนี้ bluemocha จะมาบอกเทคนิคง่ายๆที่แนะนำให้ทำเลยในช่วงนี้กับ FoodDelivery เรียกได้ว่ากำไรดีแน่นอนค่ะ

วิธีที่ร้านชานมไข่มุกจะเพิ่มกำไรด้วยการเป็นพาร์ทเนอร์กับ FoodDelivery

1. เลือกพาร์ทเนอร์ที่เหมาะกับเรา

ผู้ประกอบการธุรกิจจัดส่งอาหารแบบ Delivery มีอยู่ไม่น้อยซึ่งแต่ละแบรนด์ก็มีข้อจำกัดที่แตกต่างกันไป ในฐานะร้านอาหารเราต้องรู้ว่าสินค้าที่เราขายคืออะไรจากนั้นศึกษาข้อมูลของแต่ละแบรนด์ว่ามีขอบเขตในการจัดส่งแค่ไหน จัดส่งอะไรได้บ้าง

วิธีที่ร้านชานมไข่มุกจะเพิ่มกำไรด้วยการเป็นพาร์ทเนอร์กับ FoodDelivery

2. ทำการลงทะเบียน

การเข้าร่วมเป็นพาร์ทเนอร์ส่วนใหญ่จะเริ่มต้นจากการให้ร้านอาหารไปลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์ของแบรนด์นั้นๆ ซึ่งสามารถเข้าไปสมัครได้ตามหน้าเว็บไซต์ของแต่ละพาร์ทเนอร์ **อย่าลืมอ่านรายละเอียด

วิธีที่ร้านชานมไข่มุกจะเพิ่มกำไรด้วยการเป็นพาร์ทเนอร์กับ FoodDelivery
Shot of a man making a takeaway delivery to a woman

3.ปรับระบบให้รับออเดอร์ได้ทั้ง2ทาง

บริการ Delivery ต่างๆ อาจไม่ใช่เรื่องยากแต่ ที่ยากกว่าคือเราต้องปรับวิธีการรับออร์เดอร์ให้เหมาะสมสามารถรับลูกค้าได้ 2 ทาง คือลูกค้าจากหน้าร้านและลูกค้าจาก Delivery หากเกิดความผิดพลาดทางใดทางหนึ่งหรือให้น้ำหนักการรับออร์เดอร์ไม่ดีอาจทำให้เสียลูกค้าอีกทางหนึ่ง

วิธีที่ร้านชานมไข่มุกจะเพิ่มกำไรด้วยการเป็นพาร์ทเนอร์กับ FoodDelivery

4.ปรับระบบครัวให้ดีขึ้น

ส่วนที่สัมพันธ์กับระบบรับออร์เดอร์ก็คือระบบครัวที่เป็นหัวใจของร้านอาหาร จะต้องไม่ให้เกิดความผิดพลาดหรือมีก็ให้น้อยที่สุดเพื่อป้องกันต้นทุนที่เพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็นเช่นอาหารที่ควรใส่จานก็เอามาใส่กล่องทำให้เสียทรัพยากรและเปลืองต้นทุนโดยไม่จำเป็น

นอกจากนี้ในยุคโซเชี่ยลก็มีข้อดีสำหรับคนที่อยากมีธุรกิจอาหารแต่ไม่มีเงินทุนเปิดร้านที่อาจจะใช้ช่องทางขายออนไลน์โดยไม่ต้องลงทุนเปิดร้านซึ่งหากไม่ต้องการเปิดเว็บหรือเฟสบุ๊คขึ้นมาเองก็มีเว็บไซต์อาหารออนไลน์ให้เราเลือกใช้งานอย่าง

บอกเล่า ข้อคิดสำหรับการมีเดลิเวอรี่

ผู้เขียนเคยรู้จักกับเจ้าของธุรกิจท่านหนึ่ง ซึ่งเจ้าของธุรกิจท่านนี้ ไม่ใช้บริการหรือ ไม่มีช่องทางเดลิเวอรี่ ในธุรกิจของตนเองเลย ผู้เขียนจึงเกิดความสงสัย จึงสอบถามว่า ทำไม ถึงไม่ทำหรือเข้าร่วมกับเดลิเวอรี่เจ้าต่าง ๆ ที่มีอยู่หลากหลายเจ้า จำนวนหนึ่งเลยทีเดียวในประเทศไทย

เจ้าของธุรกิจท่านนั้นตอบว่า ไม่อยากเสียค่า GP ( ค่า GP คืออะไร ค่า GP (Gross Profit) เป็นค่าบริการระบบที่ร้านอาหารจะต้องจ่ายให้กับแพลตฟอร์มเดลิเวอรีเจ้าต่าง ๆ ในจำนวนหรืออัตราที่แตกต่างกันไปตามแต่ละเจ้า เฉลี่ยปัจจุบันอยู่ที่ 30-35% (ไม่รวม Vat) นั่นหมายความว่า เจ้าของธุรกิจท่านนี้ไม่อยากเสียส่วนต่างในตรงนี้ไป เพราะเห็นว่าเดิม ก็ได้กำไรน้อยอยู่แล้ว

อันนี้เป็นความคิดที่ไม่ถูกต้องซะทีเดียว หรือ แทบจะเรียกว่าผิดเลยก็ได้ เพราะอะไร นั่นก็เพราะการเข้าร่วมกับเดลิเวอรี่ ถือเป็นการ “มีคนช่วยขาย” หรือมีช่องทางการขายเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง ถึงแม้ว่าจะต้องแลกมากับค่า GP แต่แน่นอนว่า เมื่อมีช่องทางการขายที่เพิ่มมากขึ้น ก็จะทำให้การขายสินค้า หรือ ธุรกิจ มีการเติบโต มีรายได้ นั่นเอง

ที่น่าตลกคือ ณ ปัจจุบันทุกวันนี้ ปรากฏว่าเจ้าของธุรกิจท่านนี้ได้หันมาใช้เดลิเวอรี่ และแถมยังชื่นชอบอีกต่างหาก จากรายได้ที่เพิ่มมากยิ่งขึ้นนั่นเอง

วิธีที่ร้านชานมไข่มุกจะเพิ่มกำไรด้วยการเป็นพาร์ทเนอร์กับ FoodDelivery