กาแฟCold brew มีใครรู้จักบ้าง ? ช่วงที่ผ่านมาเวลาเดินเข้าร้านกาแฟ จะพบว่ามีเมนูที่พบเห็นอยู่บ่อย ๆ ก็จะเป็น Espresso, Americano, Cappucino, Latte ซึ่งเป็นเมนูยอดนิยมที่คอกาแฟต้องรู้จักและคุ้นเคยกันอยู่แล้ว แต่ในช่วงหลัง ๆ นี้หลายคนคงจะเคยได้ยินคำว่า กาแฟ Cold brew กันบ้าง และเริ่มกลายเป็นเมนูยอดนิยมขึ้นมา ซึ่งเชื่อว่าบางคนเคยได้ยิน เคยลองดื่ม แต่อาจสงสัยว่าเมนูนี้มีที่มาที่ไปยังไง ต่างจากเมนูกาแฟอื่น ๆ ยังไง
กาแฟCold brew คือ ?
กาแฟ Cold brew หรือเรียกอีกอย่างว่า กาแฟสกัดเย็น ซึ่งเป็นกาแฟที่ชงหรือสกัดด้วยน้ำที่มีอุณหภูมิต่ำ เช่น น้ำอุณภูมิห้อง น้ำเย็น โดยการชงกาแฟด้วยน้ำที่มีอุณภูมิต่ำ จะทำให้สารต่าง ๆ ในกาแฟละลายออกมาได้น้อยกว่าการชงด้วยน้ำร้อนแบบปกติ จึงต้องใช้เวลานานในการลง มากถึง 16-20 ชั่วโมง จึงทำให้เมนูกาแฟประเภทนี้มีราคาที่ค่อนข้างสูงกว่าเมนูกาแฟอื่น ๆ
2 ประเภทที่ต้องรู้ของ กาแฟCold brew
- การสกัดเย็นแบบแช่ (Immersion)
เป็นการนำกาแฟบดหยาบไปแช่ในน้ำที่มีอุณหภูมิต่ำ เพื่อให้เกิดการสกัดกาแฟอย่างต่อเนื่อง แล้วทิ้งไว้ประมาณ 16- 20 ชั่วโมง หรือจะทิ้งไว้นานกว่านั้นก็ได้ โดยเวลาจะสามารถปรับเปลี่ยนได้ ตามระดับการบด หรือรสชาติที่ต้องการ ซึ่งโดยปกติการสกัดด้วยวิธีนี้ จะบดกาแฟให้มีขนาดประมาณเศษขนมปังป่น และควรแช่ที่ชงไว้ในตู้เย็นอีกที เพื่อคงให้อุณฯภูมิเอาไว้ เมื่อแช่ถึงเวลาตามที่ต้องการแล้ว ให้กรองเอากากกาแฟออก
2.การสกัดเย็นแบบหยด (Cold Drip)
เป็นการหยดน้ำที่มีอุณภูมิต่ำลงบนผงกาแฟทีละหยด ซึ่งใช้เวลาในการสกัดที่ค่อนข้างนาน โดยทั่วไปมักปล่อยน้ำ 1 หยด ต่อ 1 วินาที และหากต้องการให้มีรสชาตที่เข้มข้นขึ้น อาจปรับเวลาเป็น 1หยด ต่อ 2-3 วินาที และระดับการบดกาแฟจะให้มีขนาดประมาณเศษขนมปังป่น เช่นเดียวกับการสกัดเย็นแบบแช่ก็ได้ จะทำให้น้ำค่อย ๆ หยดผ่านตัวกาแฟ และซึมลงสู่โหลด้านล่างอย่างช้า ๆ หากได้กาแฟที่สกัดด้วยวิธีและมีราคาที่ค่อนข้างสูงก็ไม่ต้องแปลกใจเลย เพราะเชื่อสิคุ้มค่ากับที่จ่ายแน่นอน
มีรสชาติยังไง ?
อย่างที่บอกไปว่า การชงหรือการสกัดกาแฟด้วยน้ำที่มีอุณภูมิต่ำ ทำให้สารต่าง ๆ ในเมล็ดออกมาได้ไม่มาก ทำให้ได้กาแฟที้มีรสชาติกลมกล่อม สดชื่น ไม่เข้มมาก ที่สำคัญไม่มีรสเปรี้ยวน้อยกว่ากาแฟปกติ เพราะความเปรี้ยวจะถูกสกัดออกมาไม่มาก เพราะการสกัดด้วยน้ำเย็นจะมี Acidity น้อยกว่าการสกัดด้วยน้ำร้อน จึงเป็นเหตุผลให้ใครหลาย ๆ คนติดใจกับกาแฟสกัดเย็น
มีกรดน้อยกว่า
ผงกาแฟจะไม่ถูกสัมผัสกับความร้อนของน้ำร้อน จึงทำให้ได้ปริมาณสารเคมีที่แตกต่างออกไปจากวิธีการชงแบบเดิมร้อน หรือการชงแบบกรอง เมื่อมีกรดต่ำ ก็ทำให้รสชาตนุ่มละมุนและสบายท้องกว่า คล้าย ๆ กับวิธีการทำให้กาแฟร้อน เย็นลงอย่างรวดเร็วซึ่งจะเพิ่มรสขมขึ้น
หมดปัญหากาแฟจาง
เคยไหมชงกาแฟแล้วแต่เมื่อเทกาแฟร้อนลงบนน้ำแข็งแล้ว ก็จะได้กาแฟที่เจือจางลงไปอีก การที่ได้ดื่มกาแฟรยชาติไม่เข้มข้น จืด ๆ นั้นไม่โอเคเลย แต่กาแฟประเภทนี้ เราสามาถกำหนดความเจือจางได้ เพราะจะมีความเย็นจากน้ำเย็น หรือน้ำอุณหภูมิห้องอยู่แล้ว ดังนั้นจะเติมน้ำแข็งหรือไม่แล้วแต่คนทำได้เลย
ปริมาณคาเฟอีนมากขึ้น
การที่เราชงกาแฟร้อน หรืออาจเติมน้ำแข็งเพื่อเพิ่มความสดชื่นนั้น จะพบว่าคาเฟอีนนั้นสามารถละลายได้ดีกว่าในน้ำร้อน กาแฟ Cold brew ที่ใช้สัดส่วนกาแฟมากกว่าปริมารน้ำ และระยะเวลาในการแช่ที่นาน จึงทำให้ได้กาแฟที่มีความเข้มข้นกว่า เมนูกาแฟอื่น ๆ แต่ก็สามารถเติมนม หรือครีม เพื่อเพิ่มรสชาติตามใจชอบได้
แล้วมีปัจจัยอะไรบ้าง ? ที่ส่งผลต่อรสชาติ
ถึงวิธีการสกัดจะดูง่าย แต่จริง ๆ แล้วต้องใส่ใจรายละเอียดอยู่เสมอ เพราะกาแฟประเภทนี้ไม่ได้มีนม ครีมเทียม มาช่วยให้รสชาติกลมกล่อม จึงอาจมีปัจจัยหลายอย่างที่จะส่งผลต่อรสชาติของกาแฟโดยตรงได้ ไม่ว่าจะเป็นอุณหภูมิน้ำที่ใช้สกัด สัดส่วนของกาแฟต่อน้ำ ระดับการบด การรบกวนกาแฟ รวมถึงไปถึงระยะเวลาที่ใช้ในการสกัด
ทั้งนี้อย่าสับสนนะ ระหว่าง กาแฟสกัดด้วยน้ำเย็น (cold brew) และกาแฟเย็น (iced coffee) ซึ่งเป็นกาแฟที่ชงด้วยน้ำร้อน และทำให้เย็นด้วยการแช่เย็น หรือเทใส่ในน้ำแข็ง แต่ถึงอย่างไรก็ตามกาแฟเย็นก็รวมถึงกาแฟสกัดด้วยน้ำเย็นและเติมน้ำแข็งด้วยเช่นกัน
ว่าแล้วใครชอบดื่มกาแฟแบบไหนกันบ้าง ? หรือใครที่ชอบดื่มชาไข่มุก ดื่มชา อยากบอกว่าเว็บไซต์ของเรามีสูตรงชงเครื่องดื่มอร่อย ๆ เยอะมาก รวมถึงมีเคล็ดลับสำหรับคนเปิดร้านกาแฟ ร้านชาไข่มุก มาฝากกันเพียบ อ่านเพิ่มเติมได้ที่หน้าบทความกันเลย
@media screen { .hide-on-screen { display: none; } }
