เมนูชา ตัวเลือกเพิ่มเติมเอาใจคนไม่ดื่มกาแฟ ดึงดูดลูกค้าเข้าร้านกาแฟมากยิ่งขึ้น
เมนูชา เครื่องดื่มขายดีตลอดกาล ไม่ว่าจะเดินทางไปไหนเราก็จะพบกับเมนูชาในร้านเครื่องดื่ม บางร้านก็ขึ้นชื่อว่าเป็นซิกเนเจอร์ของทางร้านกันเลยทีเดียว ร้านกาแฟไหนมีเมนูชาให้เลือก จะช่วยให้ลูกค้าที่ไม่ดื่มกาแฟเข้าร้านเยอะมากขึ้น และเพิ่มยอดขายพุ่งกระฉูดแน่นอน
แต่หลายคนอาจจะงง ต้นชาต้นเดียว แต่ทำไมได้ใบชาหลายประเภท แล้วร้านของเราต้องเลือกใช้ประเภทไหนถึงจะเหมาะ เจะช่วยให้ร้านมีเครื่องดื่มเกี่ยวกับเมนูชามากเพิ่มขึ้น เพื่อเป็นตัวเลือกเพิ่มเติม และดึงดูดลูกค้าให้เข้าร้านมากขึ้น
“ชา” มาจาก พืชตระกูลคาเมเลีย ไซเนนซิส (Camellia sinensis) ถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบเอเชียตะวันออก คือ ประเทศจีน และประเทศอินเดีย มีลักษณะเป็นไม้พุ่ม ใบเขียว ดอกสีขาว มีกลิ่นหอม ซึ่งใบอ่อนของต้นชา เป็นส่วนที่มีคุณภาพดีที่สุด ที่นำมาทำเป็นเครื่องดื่มเมนูชาให้พวกเราได้ดื่มกันนี่เอง
สำหรับในประเทศไทยเราเอง “ชา” ใช้เรียกกันมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนกลาง ซึ่งมีหลักฐานกล่าวถึงการดื่มชาว่า มีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย ช่วงที่มีการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับจีน ปรากฏหลักฐานชัดเจนคือ จดหมายเหตุ โดย ลาลูแบร์ราชทูตฝรั่งเศส ในแผ่นดินของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช พูดถึงการดื่มชาว่า ดื่มเฉพาะในกรุงศรีอยุธยาเท่านั้น เพราะถือว่าเป็นมารยาทผู้ดีอันจำเป็นต้องนำน้ำชามาเลี้ยงผู้มาเยี่ยม
“ชา” ผลผลิตทางเกษตรกรรมจากใบ ยอดออ่อน และก้านของต้นชา นำมาผ่านกรรมวิธีแปรรูปหลากหลาย จึงทำให้มีชื่อเรียกที่แตกต่างกันออกไปตามลักษณะการแปรรูป และนอกจากนี้ ชา ยังรวมถึงเครื่องดื่มที่ทำมาจากพืชตากแห้งชนิดต่าง ๆ เมื่อนำมาต้ม หรือชง ก็จะได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของพืชนั้น ๆ เช่น ชาใบเตย ชาตะไคร้ ชาดอกเก๊กฮวย
รู้จัก 6 ประเภทของชาตามกระบวนการแปรรูป
- ชาขาว
ชาที่ต่างจากชาประเภทอื่น ๆ ใช้ยอดชาที่ยังปกคลุมด้วยปุยขนอ่อนสีขาว โดยเริ่มจากการเลือกเก็บยอดอ่อนชา ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ จากนั้นนำยอดชามาผ่านกระบวนการทำแห้ง ด้วยวิธีธรรมชาติ โดยอาศัย แสงแดด ลม หรือความร้อน และไม่ผ่านการบ่ม
- ชาเหลือง
ชาที่ไม่ค่อยได้รับความนิยมโดยทั่วไป ส่วนใหญ่จะพบเฉพาะในประเทศจีน ซึ่งเกิดจากการเก็บใบชาแล้วนำมาม้วน และรอให้ใบแห้ง มีสีเหลือง โดยอาศัย แสงแดด ลม หรือความร้อน และไม่ผ่านการบ่ม ซึ่งการม้วนใบชานั้น จะเป็นการเก็บน้ำมันใบชาไว้ ซึ่งจะทำให้ได้รสชาติเพิ่มขึ้น
- ชาเขียว
แค่ชื่อชาทุกคนก็คงคุ้นเคยกันอยู่แล้ว เป็นชาที่ผลิตขึ้นมามาจากยอดอ่อนของชา ทีถูกนำไปอบแห้งโดยทันที ซึ่งไม่ต้องผ่านการตาก หมัก จึงทำให้ได้ใบชาที่ยังมีสีเขียว กลิ่น และรสชาติใกล้เคียงใบชาธรรมชาติมากที่สุด
- ชาแดง
ไหน ๆ ใครชอบดื่มชาเย็น หรือบางคนอาจจะเรียกชาไทย กันบ้าง บอกเลยว่าชาที่คุณชอบดื่มมาจากชาแดงนี่แหละ โดยเป็นการนำใบชา มาผ่านการหมักบ่ม หรือกระบวนการออกซิเดชั่น แล้วนำไปอบแห้ง ซึ่งจะได้ใบชาและน้ำชาเป็นสีแดง
- ชาดำ
ชาที่นิยมมากที่สุดในยุโรป เป็นการนำยอดอ่อนของชา มาถู นวด อย่างเต็มที่ แล้วนำไปผ่านกระบวนการหมัก แล้วจำนำไปอบแห้งต่ออีกครั้ง จะทำให้ได้ใบชาสีเข้ม และมีรสขมปนฝาดกว่าชาเขียว
- ชาหมัก
เป็นชาที่กว่าจะได้ดื่ม อาจต้องรอนานหน่อย เพราะเป็นการนำยอดชามาผ่านกระบวนการหมัก นานกว่า 5- 20 ปี เลยทีเดียว จะมีรสชาติขมเล็กน้อย แต่ก็มีความเข้มข้นมากว่าชาประเภทอื่น ๆ
จะเห็นได้ว่า จากชาต้นเดียวกัน แต่ก็สามารถทำให้ได้ชาต่างประเภทกันได้ ซึ่งในแต่ละประเภทก็จะมีส่วนประกอบของโปรตีน วิตามินซี วิตามินบี โพแทสเซียม และแร่ธาตุอื่น ๆ อีกมากมาย ที่ทำให้ร่างกายสดชื่น ช่วยลดความเครียด ป้องกันความดันโลหิต หลอดเลือดตีบตัน ช่วยชะลอความแก่ และยังช่วยป้องกันการสะสมไขมันส่วนเกินในร่างกายอีกด้วย บอกเลยว่าสรรพคุณล้นเหลือมาก
เพิ่มยอดขายกับ เมนูชา เอาใจคนไม่ดื่มกาแฟ
ชาเขียวใสกีวี่
ส่วนผสม
- ชาเขียวใส 5 กรัม
- น้ำร้อน 300 มิลลิลิตร
- ไซรัปกีวี่ 30 มิลลิลิตร
- กีวี่สด
- น้ำแข็ง
ขั้นตอนการทำ
- นำใบชาเขียว มาแช่น้ำร้อน เป็นเวลา 4 นาที
- กรองใบชาออก ให้เหลือแต่น้ำชาเขียวใส หากมีตะกอนอาจกรองซ้ำอีกรอบได้
- เทน้ำชาลงกระบอกเช็ก ประมาณ 150 มิลลิลิตร
- เติมไซรัปกีวี่ และน้ำแข็งตามลงไป แล้วเขย่าจนส่วนผสมเข้ากัน
- เทส่วนผสมทั้งหมดลงแก้วที่เตรียมไว้
- แต่งหน้าด้วยกีวี่ เป็นอันเสร็จ
** สามารถไซรัปผลไม้อื่น ๆ ได้ตามใจชอบ **
ชาแดงโกลด์นมสด
ส่วนผสม
- ชาแดงโกลด์ 12 กรัม
- ครีมเทียม 1 ช้อนโต๊ะ
- นมข้น 1.5-2 ออนซ์
- นมสด 3 ออนซ์
- ฟองนม สำหรับราดหน้า (สามารถใช้ไข่มุก หรือครีมชีส หรืออื่น ๆ แทนได้)
- น้ำแข็ง
ขั้นตอนการทำ
- แช่ชาแดงโกลด์ ในน้ำร้อน ประมาณ 10 นาที
- กรองใบชาออก ให้เหลือแต่น้ำชา หากมีตะกอนอาจกรองซ้ำอีกรอบได้
- ตวงน้ำชาให้ได้ 3 ออนซ์ แล้วเติมนมสด ผงครีมเทียม นมข้นหวาน จากนั้นคนส่วนผสมให้ละลายเข้าด้วยกัน
- ตักน้ำแข็งใส่แก้วที่เตรียมไว้
- เทส่วนผสมลงแก้ว เติมฟองนมด้านบน เป็นอันเสร็จแล้ว
ชามิกซ์เบอร์รี่มะนาว
ส่วนผสม
- ผงชามิกซ์เบอร์รี่
- น้ำร้อน 4 ออนซ์
- น้ำเชื่อม 1.5 ออนซ์ (ใครที่ชอบหวาน สามารถเพิ่มปริมาณได้เลยนะ)
- น้ำมะนาว (คั้นสดจะเพิ่มความหอมของมะนาว)
- ผลไม้ประเภทเบอร์รี่ เช่น สตรอว์เบอร์รี, บูลเบอร์รี
- ใบสาระแหน่
- น้ำแข็ง
ขั้นตอนการทำ
- นำผงชามิกซ์เบอร์รี แช่ในน้ำร้อน ประมาณ 10 นาที
- กรองใบชาออก ให้เหลือแต่น้ำชา หากมีตะกอนอาจกรองซ้ำอีกรอบได้
- นำน้ำชาที่ได้ มาผสมกับน้ำเชื่อม น้ำมะนาว คนให้เข้ากัน
- ตักน้ำแข็งใส่แก้ว
- เทส่วนผสมทั้งหมดลงในแก้ว
- ตกแต่งด้วยใบสาระแหน่ และผลไม้มิกซ์เบอร์รี
เป็นยังไงกันบ้างกับเมนูชา สูตรตัวอย่างที่ทางเรานำมาฝาก บอกเลยว่าร้านไหนที่ยังไม่มีเมนูชา ต้องรีบแล้วนะ และสามารถดูสูตรเครื่องดื่มอื่น ๆ ได้ที่หน้าสูตรชง รวมทั้งดูเคล็ดดลับต่าง ๆ เกี่ยวกับร้านกาแฟ ร้านชาไข่มุกได้อีกเพียบ ที่หน้าบทความของเราเลย
หรือ ๆ ใครที่กำลังอยากได้ชาคุณภาพดี เพื่อนำไปสร้างเมนูของทางร้าน ทาง bluemochatea เราก็มีชาคุณภาพมากมายให้ท่านได้นำไปสร้างสรรค์เมนู เพื่อเพิ่มยอดขายให้กับทางร้าน และจะช่วยดึงดูดลูกค้าเข้าร้านได้เพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน