เครื่องปั่นแบบมือถือ หรือ Hand Blender ถือเป็นอีกหนึ่งไอเทมที่เหมาะกับร้านเครื่องดื่มอย่างร้านกาแฟ ร้านชาไข่มุก ที่มีเมนูผลไม้มาก ๆ เพราะมีจุดเด่นในเรื่องของการใช้งานที่ง่ายสะดวกรวดเร็ว ช่วยประหยัดเวลาในการทำเครื่องดื่ม แถมมีขนาดเล็กถือใช้งานได้สบาย ล้างทำความสะอาดก็ง่าย ไม่เปลืองพื้นที่ในการจัดเก็บอีกด้วย
ซึ่งในปัจจุบันนี้ เครื่องปั่นแบบมือถือ เริ่มเป็นที่รู้จัก และเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในการเรื่องของการปั่นหรือบดผลไม้ เช่นเดียวกับเครื่องตีฟองนม ที่มาอำนวยความสะดวก จึงทำให้สามารถเลือกซื้อเลือกใช้กันได้หลายยี่ห้อ หลายรูปแบบ แต่ทั้งนี้แม้ว่าเครื่องปั่นชนิดมือถือนี้จะมีประสิทธิภาพและใช้งานได้คลาย ๆ เครื่องปั่นแบบตั้งโต๊ะ แต่ก็มีข้อจำกัดอยู่ที่ว่า ไม่เหมาะที่จะนำไปปั่นหรือบดผลไม้ที่มีเนื้อแข็ง เพราะการใช้บดของที่มีเนื้อแข็งอาจจะทำให้เครื่องทำงานหนัก และไม่ได้มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร ทั้งยังเสี่ยงต่อการทำเครื่องพังได้
วิธีเลือกซื้อ เครื่องปั่นแบบมือถือ
1. เลือกประเภทของเครื่องปั่น
แน่นอนว่าก่อนจะซื้ออุปกรณ์อะไรก็ตาม ควรพิจารณาว่านำมาใช้งานแบบไหนเป็นหลัก เพื่อจะช่วยให้ตัดสินใจเลือกซื้อได้ถูกประเภทตามความต้องการ อย่างเครื่องปั่นแบบมือถือนี้ก็มีอยู่ 2 ประเภทดังนี้
- แบบธรรมดา : สามารถที่จะใช้นำไปปั่น หรือบดผลไม้ได้ตามปกติ
- แบบมัลติฟังก์ชั่น (multi-function) : จะมีความสามารถในการใช้งานได้หลากหลาย นอกเหนือจากการนำไปปั่นหรือบดผลไม้ ซึ่งอาจจะขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ที่เสริมมาด้วย เช่น นำไปหั่นได้ ผสมแป้งหรือตีฟองได้ เหมาะสำหรับใครที่ต้องการนำไปใช้งานหลาย ๆ แบบ
2. กำลังไฟและความเร็วในการปั่น
ทุกเครื่องใช้ไฟฟ้า การพิจารณาถึงกำลังไฟจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ อย่างเครื่องปั่นชนิดมือถือนี้ กำลังไฟก็ถือเป็นตัวที่จะสามารถบอกความเร็วในการปั่นได้ ยิ่งใช้กำลังไฟและมีรอบของการหมุนมากเท่าไหร่ ก็แสดงว่าเครื่องนั้นมีประสิทธิภาพ มีพลังสามารถปั่นอาหารได้ไว และละเอียดมากขึ้น ทั้งนี้เพื่อให้การปั่นหรือบดผลไม้ง่ายยิ่งขึ้น ควรเลือกใช้เครื่องปั่นที่มีรอบการปั่น 10,000 รอบต่อนาทีขึ้นไป
3. เลือกใช้วัสดุที่มีความทนทาน
ใบมีดหรือหัวปั่น ถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะจะเป็นส่วนที่สัมผัสกับวัตถุดิบโดยตรง ดังนั้นความสะอาด ความปลอดภัยจึงถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง ดังนั้นควรเลือกใช้ใบมีดหรือหัวปั่น ที่ผลิตมาจากวัสดุประเภท สแตนเลส สตีล เพราะมีความทนทาน ไม่เป็นรอยขีดข่วนง่าย ไม่มีกลิ่น สีไม่หลุด และยังทนความร้อน จึงทำให้ใช้งานได้อย่างสะดวก ปลอดภัยต่อผู้บริโภค สำหรับใบมีดที่ผลิตมาจากพลาสติกนั้นไม่แนะนำให้เลือกใช้ เพราะค่อนข้างมีเรื่องจำกัดในการใช้งาน แถมไม่ทนต่อความร้อน และแตกหักได้ง่าย รวมไปถึงตัวเครื่องก็ควรเลือกที่จับถนัดมือ ซึ่งจะช่วยให้ทำงานได้ง่าย
4. รูปร่าง และจำนวนของใบมีด
นอกจากความแข็งแรงทนทานแล้ว รูปร่างและจำนวนใบมีดก็สำคัญ เพราะจะส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานได้ด้วย ซึ่งเครื่องปั่นแบบมือถือจะมีใบมีดอยู่ 2 ลักษณะ คือ ใบมีดแบบตรง ที่มีความสามารถในการปั่นหรือบดได้ทั่วไป และอีกลักษณะคือใบมีดแบบโค้ง ที่จะเหมาะสำหรับในการทำซุป หรือซอส ให้มีเนื้อเนียน ซึ่งสามารถที่จะเลือกใช้ได้ตามความต้องการ และบางรุ่นอาจจะมีใบมีดทั้ง 2 ลักษณะในเครื่องเดียว ที่ช่วยทำให้สะดวกต่อการใช้งานยิ่งขึ้น
5. มีฟังก์ชันในการทำงานที่หลากหลาย
อีกหนึ่งปัจจัยที่เป็นตัวตัดสินใจในการเลือกซื้อ คือ ตัวเครื่องมีฟังก์ชั่นในการทำงานหลายรูปแบบ เช่น สามารถที่จะเลือกระดับในการปรับความเร็วการหมุนได้ด้วย เพื่อให้เหมาะสมกับวัตถุดิบนั้น ๆ และมีระบบตัดไฟอัตโนมัติหากตัวเครื่องมีความร้อนสูง รวมไปถึงระบบป้องกันการหมุนของใบมีด เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน
6. ถอดล้างทำความสะอาดง่าย
แม้ว่าตัวเครื่องจะใช้งานได้สะดวกแค่ไหน แต่หากนำมาล้างทำความสะอาดได้ยาก ก็จะทำให้มีสิ่งตกค้าง และก่อให้เกิดแบคทีเรียได้ง่าย ดังนั้นควรเลือกเครื่องที่นำมาถอดล้างทำความสะอาดได้ง่าย ๆ ทำความสะอาดได้ทั่วถึง ซึ่งจะช่วยให้มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค และการที่เครื่องทำความสะอาดได้ดี จะช่วยยืดอายุการใช้งานได้มากขึ้น
7. การรับประกันหลังการซื้อ
การรับประกันสินค้าหลังการซื้อคืออีกหนึ่งสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับใครที่เลือกซื้อเครื่องปั่นมือถือที่มีราคาสูง ควรที่จะสอบถามกับทางร้านที่จำหน่ายว่ามีการรับประกันสินค้าหรือไม่ รับประกันกี่ปี หากเครื่องชำรุดมีบริการแลกเปลี่ยนสินค้า หรือทางร้านจะมีการรับผิดชอบอย่างไรบ้าง
สำหรับ 7 ข้อควรรู้ กับวิธีการเลือกซื้อเลือกใช้เครื่องปั่นแบบมือถือที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์อย่างมากที่ช่วยในการตัดสินใจ และเลือกซื้อเครื่องปั่นมือถือที่ใช่สำหรับคุณ และช่วยให้การทำเมนูเครื่องดื่มผลไม้ของคุณง่ายยิ่งขึ้น
เมื่อรู้วิธีการเลือกซื้อเครื่องปั่นมือถือ เครื่องปั่นผลไม้ที่ใช่แล้ว ก็ต้องไม่ลืมที่จะหาใบชาเพื่อนำไปรังสรรค์เป็นเมนูเครื่องดื่มผลไม้ ช่วยให้ร้านของคุณมีเครื่องดื่มผลไม้เอาใจลูกค้าได้มากขึ้น เช่น การเลือกใช้ใบชาสด ใบชาที่มีกลิ่นน้ำชาหอม เหมาะมาก ๆ กับเมนูชาผลไม้สด หรือจะเลือกใช้ชาพีช ชาเบอร์รี่ แล้วเพิ่มเนื้อผลไม้สด ผลไม้แช่แข็ง แค่นี้ก็ทำเมนูเครื่องดื่ม
น้ำผลไม้ได้ง่าย ๆ แล้ว
นอกจากนี้ทาง bluemocha เรายังมีสูตรชงเครื่องดื่มต่าง ๆ ทั้งเมนูเครื่องดื่มแบบนม เครื่องดื่มแบบใส ไม่ว่าจะเป็นเมนูยอดฮิตอย่าง วิธีทำชาไทย วิธีทำชานม วิธีทำโกโก้ วิธีทำชาอัญชัน และเมนูอื่น ๆ คลิกดูสูตรชงเครื่องดื่มเลย รวมไปถึงยังมีบทความเกี่ยวกับเทคนิคต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับร้านกาแฟ ร้านชาไข่มุก เช่น วิธีต้มชาให้หอม การทำโปรโมชั่นร้านกาแฟเพิ่มยอดขาย การเข้าร่วมบริการ Food Delivery ตลอดจนไปถึงการทำวัตถุดิบสำหรับเครื่องดื่มเอง อย่างวิธีทำนมเหนียว
วิธีทำซอสคาราเมล วิธีทำไข่มุกเอง และวิธีตีวิปครีมเอง เป็นต้น สามารถคลิกอ่านบทความอื่น ๆ ได้เลย
