ทำเลร้านกาแฟไม่ดี “เทคนิคพิชิตทำเลไม่ดี” ที่จะพลิกธุรกิจของคุณให้ดีขึ้น!
การลงทุนเปิดร้านกาแฟเอง หรือซื้อเเฟรนไชส์มาเปิด “ทำเล” ถือว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญมาก ๆ มีส่วนช่วยให้ร้านกาแฟประสบความสำเร็จ และยอดขายเยอะ แต่ถ้าหากร้านกาแฟได้ ทำเลร้านกาแฟไม่ดี โดยส่วนใหญ่แล้วเจ้าของร้านกาแฟก็จะยอมแพ้ปิดร้านไป หรือไปเปิดร้านกาแฟที่ทำเลดี ๆ แต่ก่อนที่เราจะเลือกทางใดทางหนึ่ง เราควรที่จะแก้ไขปัญหาเบื้องต้น
บทความนี้ เหมาะสำหรับเจ้าของร้านกาแฟที่กำลังประสบปัญหากับทำเลที่ตั้งร้านไม่ดี มียอดขายไม่เป็นไปตามเป้าหมาย หรืออยากปรับปรุงร้านให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น การเลือกทำเลร้านกาแฟเป็นขั้นตอนสำคัญที่ส่งผลต่อความสำเร็จของธุรกิจ แต่บางครั้งสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นได้ หากทำเลที่ตั้งร้านกาแฟของคุณไม่ดี ไม่ดึงดูดลูกค้า ไม่ต้องกังวลไป บทความนี้จะช่วยแนะนำวิธีการแก้ไขและปรับปรุงร้านของคุณให้ประสบความสำเร็จ
ปัญหาที่มักเกิดขึ้นเมื่อเจอ “ทำเลร้านกาแฟไม่ดี“
การจราจรติดขัด (Traffic Congestion)
- ผลกระทบ คนไม่อยากเสียเวลาติดอยู่ในรถเพื่อมากินกาแฟเรา
- แก้ไข เลือกทำเลที่ใกล้ทางหลีกเลี่ยงการจราจรติดขัด หรือใช้บริการเดลิเวอรี่
ไม่มีที่จอดรถ (Lack of Parking)
- ผลกระทบ ลูกค้าหาที่จอดยาก ก็จะไปหาร้านอื่น
- แก้ไข จัดทำที่จอดรถส่วนตัว หรือทำข้อตกลงกับที่จอดรถใกล้เคียง
อยู่ในพื้นที่เงียบเหงา (Low Foot Traffic)
- ผลกระทบ คนผ่านไปมาน้อย รายได้ก็ลดน้อยตาม
- แก้ไข ทำการตลาดออนไลน์ให้ดึงดูดลูกค้า หรือจัดกิจกรรมพิเศษเพื่อดึงดูดคนให้มาที่ร้าน
คู่แข่งเยอะ (High Competition)
- ผลกระทบ การแข่งขันสูง รายได้อาจไม่พอครอบคลุมค่าใช้จ่าย
- แก้ไข เน้นความแตกต่าง เช่น การบริการที่ดี เมนูพิเศษ หรือบรรยากาศที่ไม่เหมือนใคร
เสียงดังและมลพิษ (Noise and Pollution)
- ผลกระทบ: ลูกค้าไม่อยากนั่งดื่มกาแฟในที่เสียงดังและมีมลพิษ
- แก้ไข: ปรับปรุงร้านให้มีฉนวนกันเสียง ปลูกต้นไม้เพิ่มเพื่อช่วยลดมลพิษ
เข้าถึงยาก (Accessibility Issues)
- ผลกระทบ ถ้าร้านเราไปยาก คนก็จะไม่อยากมา
- แก้ไข ป้ายบอกทางที่ชัดเจน จัดบริการรับส่งจากสถานีรถไฟฟ้าหรือจุดสำคัญ
การเลือกทำเลที่ไม่ดี คือ การทำธุรกิจที่การแข่งขันสูงกว่าปกติ แต่เราต้องเตรียมพร้อม และหาทางแก้ไขทุกปัญหา เราต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ร้านกาแฟของเรา กลายเป็นจุดหมายปลายทางของคนที่ต้องการดื่มกาแฟดี ๆ ไม่ว่าทำเลจะไม่ดีแค่ไหน ถ้าเรามีความมุ่งมั่น เราจะทำให้มันดีได้ นี่ไม่ใช่แค่ธุรกิจ แต่นี่คือ การต่อสู้ของชีวิต เราต้องทำให้ได้ เปิดร้านกาแฟในที่ที่ทุกคนบอกว่าน่าสนใจ แต่เราจะมองให้ลึกกว่านั้น เราต้องมองหาสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น มองหาจุดอ่อนที่ซ่อนอยู่ในความงาม และจุดแข็งที่อยู่ใต้ความเงียบสงบ มาดูกันว่าทำอย่างไร
วิธีวิเคราะห์จุดแข็ง และจุดอ่อน
สำรวจพื้นที่ (Survey the Area)
- เดินสำรวจพื้นที่จริง ดูการจราจร คนเดินทาง ประเมินความสะดวกในการเข้าถึงร้าน
วิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติ (Analyze Statistical Data)
- ใช้ข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เช่น สถิติการเดินทาง รายงานการตลาด
ศึกษาคู่แข่ง (Study Competitors)
- ดูว่าในพื้นที่นั้นมีร้านกาแฟกี่ร้าน แต่ละร้านมีลูกค้าเยอะไหม การบริการของพวกเขาเป็นยังไง
สอบถามผู้คน (Ask the People)
- สอบถามคนที่อาศัยในพื้นที่นั้นหรือคนที่ทำงานในพื้นที่นั้นว่ามีความคิดเห็นอย่างไรกับทำเลนั้น
จุดแข็ง (Strengths)
ทำเลที่ตั้ง (Location)
- คนผ่านไปมาเยอะ คนเยอะหมายถึงลูกค้าเยอะ ทำเลที่มีการจราจรหนาแน่น เช่น ใกล้สถานีรถไฟฟ้า ห้างสรรพสินค้า หรือมหาวิทยาลัย นี่เป็นที่แรกที่เราต้องมองหา
- ใกล้แหล่งท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวหิวน้ำเหมือนกัน คิดถึงร้านกาแฟใกล้สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง
สิ่งอำนวยความสะดวก (Amenities)
- ที่จอดรถ คนที่มาจอดรถจะต้องคิดถึงร้านกาแฟเราในตอนที่เขาต้องการที่จอด
- แหล่งไฟฟ้าและน้ำ ต้องแน่ใจว่าไฟฟ้าและน้ำเพียงพอสำหรับการดำเนินกิจการ
การมองเห็น (Visibility)
- ป้ายร้าน ป้ายร้านต้องชัดเจน มองเห็นได้จากระยะไกล
การเข้าถึง (Accessibility)
- การเดินทางสะดวก ไม่เป็นพื้นที่อันตราย ร้านเราควรอยู่ในที่ที่คนเข้าถึงง่าย
จุดอ่อน (Weaknesses)
การแข่งขัน (Competition)
- ร้านกาแฟอื่นๆ ใกล้เคียง ร้านกาแฟใกล้เคียงมากเกินไปอาจทำให้ลูกค้าแบ่งกัน ไม่พอสำหรับทุกคน
ค่าเช่า (Rent)
- ค่าเช่าแพง เราจะต้องจ่ายค่าเช่าสูงเพื่ออยู่ในทำเลดี แต่รายได้อาจไม่คุ้มค่าใช้จ่าย
ปัญหาทางการจราจร (Traffic Issues)
- การจราจรติดขัด ทำให้ลูกค้าเดินทางมาลำบาก
สิ่งแวดล้อม (Environment)
- เสียงดัง หากร้านอยู่ในบริเวณที่มีเสียงดังเกินไป ลูกค้าอาจไม่อยากมา
- อากาศไม่ดี ควันหรือฝุ่นมากเกินไปอาจทำให้ลูกค้าไม่สบายใจ
การวิเคราะห์จุดแข็งและจุดอ่อนของทำเล คือ การมองให้ลึกกว่าผิวเผิน มองเห็นสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็น นี่ไม่ใช่แค่การทำธุรกิจ แต่นี่คือการต่อสู้กับความไม่แน่นอน เราต้องเตรียมตัวให้พร้อม และมองเห็นได้มากกว่าที่คนอื่นเห็น
เช็คลิสต์ทำเลร้านกาแฟสำหรับมือใหม่
ตำแหน่งที่ตั้ง (Location)
- อยู่ในแหล่งชุมชนหรือที่มีคนพลุกพล่าน
- ใกล้กับสำนักงาน มหาวิทยาลัย หรือแหล่งท่องเที่ยว
- มีการเดินทางสะดวกทั้งการเดินเท้าและรถยนต์
การเข้าถึง (Accessibility)
- มีทางเข้าที่สะดวก ไม่ซับซ้อน
- มีที่จอดรถเพียงพอสำหรับลูกค้า
- ใกล้กับสถานีขนส่งสาธารณะ เช่น สถานีรถไฟฟ้า หรือป้ายรถเมล์
สิ่งอำนวยความสะดวก (Amenities)
- มีไฟฟ้าและน้ำประปาเพียงพอ
- มีระบบระบายอากาศที่ดี
- มีห้องน้ำสะอาดและสะดวกสบาย
ขนาดพื้นที่ (Space)
- มีพื้นที่เพียงพอสำหรับโต๊ะ เก้าอี้ และการเคลื่อนที่ของลูกค้า
- สามารถจัดวางพื้นที่สำหรับครัวและเคาน์เตอร์บาร์ได้อย่างเหมาะสม
การแข่งขัน (Competition)
- สำรวจร้านกาแฟในบริเวณใกล้เคียง
- วิเคราะห์ความสามารถในการแข่งขันและจุดเด่นของร้านที่มีอยู่แล้ว
- หาจุดขายหรือความแตกต่างที่จะทำให้ร้านนายโดดเด่น
ค่าเช่าและค่าใช้จ่าย (Rent and Costs)
- ตรวจสอบค่าเช่าที่เหมาะสมกับงบประมาณ
- คำนวณค่าใช้จ่ายในการตกแต่งและปรับปรุงพื้นที่
- ประเมินค่าใช้จ่ายรายเดือน เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าแรงงาน
กฎหมายและข้อบังคับ (Legal and Regulatory)
- ตรวจสอบใบอนุญาตที่จำเป็น เช่น ใบอนุญาตขายอาหารและเครื่องดื่ม
- ปฏิบัติตามกฎหมายท้องถิ่นเกี่ยวกับสุขอนามัยและความปลอดภัย
ความปลอดภัย (Safety)
- พื้นที่ปลอดภัยสำหรับลูกค้าและพนักงาน
- มีระบบกล้องวงจรปิดและมาตรการป้องกันอัคคีภัย
ป้ายและการมองเห็น (Signage and Visibility)
- มีป้ายร้านที่มองเห็นได้ชัดเจนจากถนนหลัก
- ตกแต่งร้านให้มีความน่าสนใจและเป็นเอกลักษณ์
ศักยภาพในการขยายตัว (Potential for Expansion)
- มีพื้นที่และโอกาสในการขยายร้านในอนาคต
- สามารถเพิ่มเมนูหรือบริการเพิ่มเติมได้
เช็กลิสต์นี้ คือ อาวุธของเราในการทำให้ร้านกาแฟเกิดขึ้นจากจินตนาการ และกลายเป็นความจริง ทุกจุดในเช็กลิสต์คือก้าวหนึ่งที่เราต้องตรวจสอบและเตรียมความพร้อม อย่าลืมว่าการเตรียมตัวที่ดี คือ การต่อสู้ไปกว่าครึ่งแล้ว เราพร้อมหรือยัง ถ้าพร้อมแล้วก็ลุยเลย! ความสำเร็จรออยู่ตรงนั้น
ทำเลร้านกาแฟไม่ดี ที่ไม่ควรเลือกเด็ดขาด
พื้นที่ที่มีการจราจรติดขัดหนัก (Heavy Traffic Congestion)
- ลูกค้าจะไม่อยากเสียเวลาติดอยู่ในรถเพื่อมาดื่มกาแฟ แม้ร้านเราจะอยู่ในที่ดีขนาดไหนก็ตาม
ที่ตั้งที่ห่างไกลจากชุมชน (Remote Areas)
- พื้นที่ที่ไกลจากแหล่งชุมชนหรือสถานที่ทำงาน ไม่มีคนเดินผ่านไปมา เป็นเหมือนที่ร้างไร้ผู้คน
บริเวณที่ไม่มีที่จอดรถ (No Parking Area)
- ที่จอดรถเป็นปัญหาใหญ่ ลูกค้าจะไม่อยากมาถ้าต้องวนหาที่จอดนานๆ
ใกล้แหล่งอุตสาหกรรมหรือโรงงาน (Near Industrial Areas)
- เสียงดัง มลพิษ และสภาพแวดล้อมไม่ดี ลูกค้าจะไม่อยากนั่งนาน
บริเวณที่มีการก่อสร้างหนัก (Under Heavy Construction Areas)
- เสียงดัง ฝุ่นละออง ทำให้ลูกค้าไม่อยากมาและนั่งดื่มกาแฟ
ย่านที่มีคู่แข่งเยอะเกินไป (High Competition Zones)
- การแข่งขันสูงเกินไป ทำให้การแย่งชิงลูกค้าเป็นไปอย่างดุเดือด ถ้าเราไม่มีจุดเด่นชัดเจน ก็อาจจะพ่ายแพ้
พื้นที่เสี่ยงภัย (Unsafe Neighborhoods)
- บริเวณที่มีอัตราการเกิดอาชญากรรมสูง ลูกค้าจะรู้สึกไม่ปลอดภัย
บริเวณที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกน้อย (Lack of Amenities)
- ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ห้องน้ำสะอาด น้ำประปา ไฟฟ้าเพียงพอ
ที่ตั้งที่เข้าถึงยาก (Difficult to Access Locations)
- ต้องผ่านทางแคบ หรือมีการเดินทางซับซ้อน ลูกค้าจะไม่อยากมา
พื้นที่เสียงดังและมลพิษ (Noisy and Polluted Areas)
- เสียงจากรถยนต์ รถไฟ หรือเครื่องบินบินผ่าน รวมถึงควันและกลิ่นไม่พึงประสงค์ ทำให้ลูกค้าไม่อยากนั่งนาน
การเลือกทำเลที่ผิด คือ การตัดสินใจที่จะทำให้ธุรกิจของเราตกอยู่ในความลำบาก การเปิดร้านกาแฟในทำเลที่ยอดแย่เหมือนกับการเปิดประตูเชิญให้ความล้มเหลวมาหา แต่ถ้าเราหลีกเลี่ยงทำเลเหล่านี้และเลือกที่เหมาะสม ความสำเร็จก็อยู่ไม่ไกลแล้ว เราพร้อมจะฝ่าฟันและเลือกทำเลที่ดีที่สุดหรือยัง ลุยเลย
เปลี่ยน”ทำเลร้านกาแฟไม่ดี”ให้กลายเป็นจุดหมายปลายทาง
เคยได้ยินคำว่า “ไม่มีทำเลไม่ดี มีแต่การจัดการไม่ดี” การเปิดร้านกาแฟในทำเลที่ไม่ดี และคู่แข่งเยอะ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเราจะแพ้เสมอไป หากเรารู้จักเทคนิค และมีความอดทน วันนี้เราจะมาคุยกันเรื่องวิธีพลิกฟื้นทำเลร้านกาแฟที่แย่ให้กลายเป็นแหล่งดึงดูดลูกค้า
1.ทำให้ร้านของเราโดดเด่น (Stand Out)
ถ้าทำเลของเราไม่ดี เราต้องทำให้ร้านโดดเด่นมากพอที่คนจะไม่สามารถเมินเฉยได้
- ป้ายร้านที่ใหญ่และชัดเจน ป้ายร้านต้องมองเห็นได้จากระยะไกล สีสดใสและมีแสงไฟสว่างในเวลากลางคืน
- การตกแต่งที่ไม่เหมือนใคร ใช้การตกแต่งที่เป็นเอกลักษณ์ ศิลปะบนกำแพง โคมไฟดีไซน์แปลกใหม่ หรือเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่ซ้ำใคร
2.การตลาดเชิงรุก (Aggressive Marketing)
ถ้าเราอยู่ในทำเลที่ไม่ดี เราต้องทำการตลาดให้หนัก
- โซเชียลมีเดีย สร้างโปรไฟล์ใน Facebook, Instagram, TikTok อัปโหลดรูปสวยๆ และเนื้อหาน่าสนใจอย่างต่อเนื่อง
- โปรโมชั่นพิเศษ จัดโปรโมชั่นเช่น ซื้อ 1 แถม 1 ในช่วงเวลาเร่งด่วน แจกคูปองลดราคา หรือจัดกิจกรรมพิเศษเพื่อดึงดูดลูกค้า
3. ปรับปรุงสภาพแวดล้อม (Enhance the Environment)
หากทำเลของเรามีปัญหาด้านสภาพแวดล้อม เช่น เสียงดังหรือมลพิษ เราต้องทำให้ร้านของเราเป็นที่หลบภัย
- ปลูกต้นไม้ ต้นไม้ช่วยลดมลพิษ และสร้างบรรยากาศร่มรื่น
- ที่นั่งสบายๆ โต๊ะและเก้าอี้ที่นั่งสบาย มีมุมถ่ายรูปสวยๆ และจัดพื้นที่ให้ลูกค้ารู้สึกผ่อนคลาย
4. สร้างพันธมิตร (Create Alliances)
การร่วมมือกับธุรกิจอื่นๆ จะช่วยให้เราดึงดูดลูกค้ามากขึ้น
- ร่วมมือกับธุรกิจใกล้เคียง ทำโปรโมชั่นร่วมกับร้านหนังสือ ร้านดอกไม้ หรือร้านเสื้อผ้า
- จัดกิจกรรมพิเศษ เชิญนักร้อง นักแสดง หรือศิลปินมาจัดแสดงสดที่ร้าน
5. การบริการที่ประทับใจ (Exceptional Service)
บริการที่ดีสามารถทำให้ลูกค้ากลับมาเสมอ
- การบริการที่ยอดเยี่ยม ฝึกอบรมพนักงานให้บริการอย่างมืออาชีพ ใส่ใจลูกค้าและให้บริการด้วยรอยยิ้ม
- ความสะอาด รักษาความสะอาดของร้านอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกสบายใจและปลอดภัย
6. ปรับปรุงการเข้าถึง (Improve Accessibility)
ทำให้การเข้าถึงร้านเราง่ายขึ้น
- บริการเดลิเวอรี่ ร่วมมือกับแอปพลิเคชันเดลิเวอรี่ เช่น Grab, Foodpanda เพื่อส่งกาแฟถึงมือลูกค้าที่ไม่สามารถมาที่ร้านได้
- ที่จอดรถ จัดหาที่จอดรถส่วนตัวหรือทำข้อตกลงกับที่จอดรถใกล้เคียง
7. เพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ (Enhance Product Value)
การมีเมนูที่ไม่เหมือนใครจะช่วยดึงดูดลูกค้า
- เมนูพิเศษ สร้างสรรค์เมนูที่ไม่เหมือนใคร เช่น กาแฟสูตรพิเศษ ขนมโฮมเมด หรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมเฉพาะ
- คุณภาพสูง ใช้วัตถุดิบคุณภาพดีเพื่อทำให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่ากับเงินที่จ่าย
8. ใช้เทคโนโลยี (Utilize Technology)
เทคโนโลยีสามารถช่วยให้เราเข้าถึงลูกค้าได้ง่ายขึ้น
- แอปพลิเคชันสะสมแต้ม สร้างแอปพลิเคชันสำหรับสะสมแต้ม เพื่อดึงดูดลูกค้าประจำ
- ฟรี Wi-Fi ให้บริการ Wi-Fi ฟรี สำหรับนักเรียน นักศึกษา หรือผู้ที่ทำงานระหว่างดื่มกาแฟ
การเลือกทำเลที่ไม่ดีไม่ได้หมายความว่าธุรกิจเราจะล้มเหลว แต่เป็นโอกาสในการพิสูจน์ความสามารถของเรา การพลิกฟื้นทำเลไม่ดีให้กลายเป็นจุดหมายปลายทางต้องอาศัยการคิดนอกกรอบ ความมุ่งมั่น และความตั้งใจจริง เราพร้อมจะเผชิญหน้ากับความท้าทายนี้หรือยัง เพราะถ้าเราทำได้ เราจะไม่ใช่แค่ผู้รอดชีวิตในสนามรบธุรกิจ แต่เราจะเป็นผู้ชนะที่ทุกคนต้องนับถือ
หากใครที่กำลังมองหาโรงงานผลิตชา และกาแฟ บลูมอคค่าเราเป็นโรงงานผลิตชา และกาแฟ มีผงชา และกาแฟมากกว่า 50 รายการ ไม่ว่าจะเป็นชาเขียว ชาไทย ชาดอกไม้ ชาผลไม้ กาแฟ และท็อปปิ้งครีมชีส และยังมีผงชาที่นำเข้าจากต่างประเทศ ผงมัทฉะ และชาไต้หวัน นอกจากนี้บลูมอคค่าเรายังมีบริการผลิตชาส่งออกนอกประเทศ ขายปลีก-ขายส่งในประเทศ รับสร้างแบรนด์ชา รับผลิตชาให้แฟรนไชส์ และนำเข้าชาจากต่างประเทศ และมีสิทธิพิเศษมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ของสมนาคุณ มีโปรโมชั่นวันเกิด, โปรโมชั่นประจำเดือน, สมาชิกสะสมแต้ม, คอร์สเรียนการตลาดฟรี และระบบคิดเงิน ระบบ Tobi POS เราพร้อมให้บริการดูแลและใส่ใจลูกค้าทุกคน
และถ้าหากลูกค้าสั่งซื้อวันนี้บลูมอคค่าเราจะจัดส่งในวันถัดไปทันที ซึ่งเรามีบริการจัดส่งสินค้ากับบริษัทขนส่งที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ไปรษณีย์ไทย, KERRY, DHL, SCG, J&T รวมไปถึงการขนส่งผ่านรถบัส เพื่อความสะดวกของลูกค้า เพราะบลูมอคค่าเราใส่ใจลูกค้า ให้ได้รับใบชาที่มีคุณภาพที่ดีที่สุด บลูมอคค่าเรา สามารถที่จะจัดส่งไปยังต่างประเทศ พร้อมด้วยผู้เชี่ยวชาญที่คอยให้คำปรึกษากับลูกค้าตลอดการสั่งซื้อ บลูมอคค่าตรวจสอบทุกออเดอร์ก่อนถึงมือลูกค้า เพื่อให้ได้สินค้าที่ปลอดภัย และมีคุณภาพที่ดี หากสนใจสั่งซื้อ บลูมอคค่าเรามีโปรโมชั่นจัดส่งฟรีทั่วประเทศ เมื่อสั่งซื้อ 5,000 Kg. ขึ้นไป
“บลูมอคค่าเรา คือ เพื่อนคู่คิด ผลิตใบชา ให้คำปรึกษาครบวงจร”
บทความที่เกี่ยวข้อง