เคล็ดลับการออกแบบตกแต่งร้านชากาแฟให้สวยถูกใจลูกค้า
|

เคล็ดลับการออกแบบตกแต่งร้านชากาแฟให้สวยถูกใจลูกค้า

เปิดร้านกาแฟ / นักชงกาแฟ / มือใหม่ / มือเก่า / สูตรชงชา / สูตรกาแฟ/สูตรชา | สูตรชงชา |สูตรชงกาแฟ | สูตรกาแฟ | สูตรกาแฟฟรี | สูตรชาฟรี

เคล็ดลับการออกแบบตกแต่งร้านชากาแฟให้สวยถูกใจลูกค้า

ในปัจจุบันคงจะปฏิเสธไม่ได้หรอกว่า ธุรกิจร้านชากาแฟเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก หลายๆคนที่อยากจะประกอบอาชีพที่เป็นเจ้านายของตัวเอง หรืออยากจะมีรายได้เสริม มักจะคิดถึงธุรกิจนี้เป็นอันดับแรกเสมอ เนื่องจากเป็นกิจการที่เริ่มต้นได้ง่ายไม่ยากจนเกินไป และยังเป็นที่นิยมของคนยุคใหม่ ไม่ว่าหนุ่ม สาว หรืออายุรุ่นราวคราวได้ ก็ชอบใช้เวลาว่างในร้านชากาแฟกัน ไม่ว่าจะนั่งจิบเครื่องดื่มเมนูโปรด เพื่อผ่อนคลาย ใช้ร้านชากาแฟเป็นที่นั่งทำงาน อ่านหนังสือ หรือพบปะกับเพื่อนๆ
ดังนั้นการออกแบบและตกแต่งร้านให้สวยงาม มีบรรยากาศที่สามารถเชื้อเชิญให้เข้ามานั้นเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะหน้าร้านก็เปรียบเสมือนเป็นหน้าตาของธุรกิจก็ว่าได้ หากลูกค้าที่ผ่านไปผ่านมาได้เห็นหน้าร้านที่มีบรรยากาศดีแล้ว ก็จะรู้สึกอยากจะเข้ามาอุดหนุน แต่ถ้าหน้าร้านตกแต่งแล้วออกมาดูซุด หรือรกจนไม่มีทางเดิน อาจทำให้ลุกค้าไม่อยากจะเข้ามาอุดหนุนสักเท่าไร ถึงแม้ว่าเมนูในร้าจะเลิศหรู อร่อยมากเพียงใดก็ตาม แต่อย่างไรลูกค้าส่วนมากก็ยังเตะตาต้องใจกับความสวยงามของหน้าร้านก่อนเป็นอันดับแรกอยู่ดี


เพราะเหตุนี้บทความนี้ขอกล่าวถึงเคล็ดลับง่ายๆ ในการออกแบบร้านกาแฟ และการตกแต่งว่าทำอย่างไร จึงจะสร้างบรรยากาศที่เหมาะสม สวย ดึงดูดความสนใจลูกค้าได้ หากใครกำลังสนใจที่จะเปิดธุรกิจร้านชากาแฟแล้วละก็ ไม่ควรพลาดอย่างเด็ดขาด


1. การออกแบบร้านกาแฟที่สวยๆ จะต้องมาจากความคิดสร้างสรรค์ของเจ้าของร้าน
การที่เจ้าของร้านจะเปิดร้านชากาแฟนั้น ควรจะร่างคอนเซ็ปต์คร่าวๆก่อน ว่าอยากตกแต่งร้านแบบใด เน้น Theme อย่างไร ทำเลร้านจะอยู่บริเวณใด และที่สำคัญอยากเจาะกลุ่มลูกค้ากลุ่มใด เพราะกลุ่มลูกค้าจะเป็นแรงบันดาลใจที่สำคัญมากในการออกแบบร้านเป็นอย่างมาก เช่นถ้าอยากเน้นขายนักเรียน,นักศึกษา ก็อาจเน้นตกแต่งร้านให้ดูน่ารัก มีลายการ์ตูนประดับ และมีที่อ่านหนังสือ หรือถ้าเน้นขายลูกค้าที่ค่อนข้างมีเงิน หรือเป็นผู้ใหญ่ ก็อาจเน้นบรรยากาศเรียบหรูดูแพง เป็นต้น


2. ออกแบบร้านกาแฟให้มีขนาดเล็ก สำหรับผู้ที่งบน้อย
การออกแบบร้านกาแฟนั้นไม่ได้มีเพียงแค่ร้านใหญ่เท่านั้น ยังมีร้านขนาดเล็กๆ ที่เหมาะกับเจ้าของร้านที่มีงบน้อยอีกด้วย เพราะว่าถ้าร้านกาแฟมีขนาดใหญ่ ก็ต้องใช้งบประมาณในการสร้างสูงกว่า เปลืองทั้งเวลาและกำลังทรัพย์ ดังนั้นหากการเปิดร้านกาแฟคือความฝัน อยากจะลงทุนด้วยเงินเท่าที่มีอยู่ ก็ให้เริ่มต้นจากร้านขนาดเล็กๆก่อน และเมื่อขายดีขึ้น ก็ค่อยๆเก็บเงิน สะสมทุนแล้วนำไปขยับขยายร้านให้ใหญ่ยิ่งขึ้นในอนาคตก็ยังไม่สาย


3. เลือกทำเลที่เป็นสวน หรือแวดล้อมด้วยธรรมชาติ
สำหรับการเปิดร้านชากาแฟที่ต่างจังหวัด หรือเขตนอกเมือง แนะนำให้หาทำเลที่ใกล้ชิดธรรมชาติ หรือหากหาไม่ได้ ก็ควรเลือกที่ดินที่กว้างๆ เพื่อที่จะได้จัดแต่งเป็นสวนขึ้นมาสวยๆ มีดอกไม้สีสันสดใส มีต้นไม้ และสร้างตัวร้านขึ้นมา ให้มีทั้งโต๊ะนั่งแบบ Indoor และ Outdoor มีที่นั่งริมระเบียง มีมุมให้ถ่ายรูปได้สวยๆ แบบนี้แล้วจะถูกใจลูกค้ามากขึ้นและจะส่งผลให้มีกำไรมากขึ้นไปด้วย เพราะลูกค้าปัจจุบัน โดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิง มักจะชอบเลือกร้านชากาแฟที่มีบรรยากาศผ่อนคลาย เป็นธรรมชาติ มีมุมให้ได้ถ่ายเซลฟี่ เช็คอินลงโซเชียลแบบเก๋ๆ


4. ตกแต่งสไตล์วินเทจ
การแต่งร้านชากาแฟสไตล์วินเทจ ก็เป็นอีกรูปแบบที่ได้รับความนิยมมาก เนื่องจากแนววินเทจนั้นมีความละเอียดอ่อน มีคุณค่า ชวนให้นึกถึงเรื่องราวเก่าๆในอดีต ร้านแบบนี้เหมาะสำหรับเปิดทั้งในเมืองและต่างจังหวัด โดยเจ้าของร้านสามารถปรับขนาดร้าน และเปลี่ยนวัสดุที่ใช้ตกแต่งเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมโดยรอบได้ เช่น หากอยู่ต่างจังหวัด ก็อาจเน้นใช้ไม้เป็นหลัก หรือหากอยู่ในเมือง ก็อาจเน้นใช้อิฐแดง เป็นต้น


5. ตกแต่งร้านกาแฟแบบโบราณ สำหรับการขายกาแฟสูตรโบราณ
ถ้าตั้งใจว่าจะเน้นขายกาแฟสูตรโบราณ ก็ควรตกแต่งร้านกาแฟให้ดูโบราณตามไปด้วย เพื่อเพิ่มอรรถรสในการดื่มแก่ลูกค้า วิธีการตกแต่งร้านกาแฟให้ดูโบราณนั้น อาจใช้วิธีนำงานประติมากรรมที่จำลองข้าวของเครื่องใช้ในสมัยโบราณมาตั้งไว้ตามมุมต่างๆในร้านก็ได้ อาทิเช่น จักรเย็นผ้าสมัยโบราณ รถมอเตอร์ไซค์รุ่นคุณปู่ นาฬิการุ่นคุณปู ฯลฯ


6. มีภาพวาดหรือภาพถ่ายที่สวยๆเข้ากัน ติดตกแต่งบนผนังบ้าง
การที่เอาภาพวาด หรือภาพถ่ายมาตกแต่งร้านชากาแฟ เน้นเป็นภาพทิวทัศน์ธรรมชาติ ดูสบายๆ หรือภาพสัตว์น่ารักๆ ก็ได้ โดยให้เลือกให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมภายในร้าน จะทำให้บรรยากาศภายในร้านนั้นสบายตามากขึ้น


7. มีต้นไม้หรือดอกไม้ประดับไว้ภายในร้านบ้าง
นอกจากการทำสวนปลูกต้นไม้ดอกไม้ไว้รอบๆ ร้านแล้ว ภายในร้านเองควรจะมีดอกไม้สวยๆ ปักแจกัน หรือมีไม้กระถางขนาดเล็กตกแต่งไว้ ก็จะทำให้บรรยากาศดูโรแมนติก ผ่อนคลายมากขึ้น

 

8. จัดโต๊ะให้มีจำนวนเก้าอี้ที่แตกต่างกันไป
การที่ภายในร้านนั้นมีโต๊ะเก้าอี้เยอะๆ นั้น เพื่อให้สะดวกต่อลูกค้าทุกคนที่มาใช้บริการ จึงควรจัดโต๊ะให้รองรับกับลูกค้าหลายๆแบบ ให้มีทั้งโต๊ะที่สามารถนั่งได้ 2 คน นั่งคนเดียว และนั่งรวมกันเป็นกลุ่ม เพราะลูกค้าบางรายอาจมากันเป็นคู่รัก บางรายอาจมากันเป็นกลุ่มเพื่อน ในขณะที่บางรายอาจชอบมาคนเดียว ถ้าหากที่นั่งเป็นแบบเดียวกันหมดทั้งร้าน ก็จะไม่สะดวก


9. ควรมีตู้ใส่หนังสือ หรือนิตยสาร ให้ลูกค้าได้อ่าน
ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในร้านบางคนชอบใช้เวลาในร้านกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ ไม่ได้มาเพียงแค่ดื่มชากาแฟอย่างเดียว แต่มาเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ ดังนั้นที่ร้านการมีตู้หนังสือ หรือนิตยสารไว้บริการลูกค้า ก็จะช่วยให้ลูกค้าผ่อนคลายและมีความสุขมากขึ้นได้ เพราะได้มีอะไรทำระหว่างที่กำลังดื่มกาแฟ

 


10. ไม่จำเป็นต้องติดตั้งเครื่องปรับอากาศ แต่ต้องออกแบบร้านให้มีอากาศถ่ายเทดี
เป็นที่เข้าใจได้ว่า ทุกวันนี้ทุกสิ่งอย่างต่างก็แพงไปหมด เจ้าของร้านจำนวนมากมีภาระค่าใช้จ่ายที่หนักอึ้งพอตัวอยู่แล้ว ดังนั้นการจะเปิดร้านชากาแฟแม้เพียงร้านเล็กๆ ก็อาจไม่สามารถติดตั้งเครื่องปรับอากาศได้ทุกครั้งไป ที่จริงแล้วร้านกาแฟ โดยเฉพาะในเขตต่างจังหวัด ไม่จำเป็นต้องมีเครื่องปรับอากาศก็ได้ แต่ต้องออกแบบร้านให้มีประตูและหน้าต่างที่สามารถทำให้อากาศถ่ายเทได้เป็นอย่างดี และต้องมีพัดลมเพดานมาแทน เพื่อที่ลูกค้าจะได้รู้สึกสบายตัว หากทำได้แล้วจะเป็นการประหยัดค่าไฟและต้นทุนได้มากเลยทีเดียว


11. มี Wifi ให้ลูกค้าใช้งาน
ด้วยความที่สมัยนี้ หลายคนติดโซเชียลกันเป็นอย่างมาก และอินเตอร์เน็ตก็มีบทบาทสำคัญต่อแทบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียน หรือการทำงาน ดังนั้นเมื่อลูกค้าจำนวนมากชอบมาใช้ร้านกาแฟเป็นที่เรียน ทำงาน อ่านหนังสือ ร้านกาแฟก็ควรมีบริการ Free Wifi ด้วย เพื่อความสะดวกสบายและทำให้ลูกค้าติดใจ อยากกลับมาอุดหนุนอีกครั้ง

Other Blogs