แนวทางการเริ่มต้นธุรกิจเครื่องดื่ม ชา-กาแฟ

แนวทางการเริ่มต้นธุรกิจเครื่องดื่ม ชา-กาแฟ

แนวทางการเริ่มต้นธุรกิจเครื่องดื่ม ชา-กาแฟ

อยากเปิดร้านแต่ไม่รู้จะเริ่มยังไงดี !

แนวทางการเริ่มต้นธุรกิจเครื่องดื่ม ชา-กาแฟ

ตามาด้วยคำถามยอดฮิต…ซื้อเฟรนไชส์ดีมั้ย!?

จากการสำรวจตลาดธุรกิจเฟรนไชส์ แอดมินมีข้อมูลคร่าว ๆ ของราคาเฟรนไชส์ชื่อดัง แต่ละเจ้าดังนี้
  • ชาพะ.. 100,000 บาท
  • ชาปักษ์.. 60,000 บาท
  • ชาขุน.. 90,000 บาท
  • ชาตัน.. 69,000 บาท
  • ชายิ้.. 40,000-52,000 บาท
  • ชาปาก.. 69,000 บาท
  • ชาพะเ.. 79,000 บาท
  • ชาช้.. 30,000-69,000 บาท
  • ชาลิ.. 39,000 บาท

*ราคา ณ ปัจจุบัน อาจมีการปรับเปลี่ยน

เป็นราคาช่วงปกติที่ไม่มีโปรโมชั่นลดนะครับ ซึ่งเกือบทุกเจ้า จะให้เพียงอุปกรณ์บางอย่าง (ราคารวมไม่เกินหมื่น) สูตรการชง และสิทธิ์ในการซื้อผงชา
ข้อดี : ถ้าเป็นเจ้าที่มีชื่อเสียง และรสชาติดีจริงๆ จะมีผลต่อการตัดสินใจซื้อของลูกค้า แต่ในตลาดจริงๆ ยังมีปัจจัยอื่นๆอีก!!
ข้อเสีย : ลงทุนสูง ส่งผลให้มีความเสี่ยงสูงตามไปด้วย ( หากซื้อเฟรนไชส์จะต้องใช้เงินประมาณ 150,000-200,000 บาท ในการเปิดร้าน )

ทุนน้อย…แต่อยากมีร้านของตัวเอง

มาเปิดร้านชาแบบไม่ต้องง้อเฟรนไชส์กันเถอะ! แอดฯมีข้อมูลและคำแนะนำ…ให้ลองเอาไปตัดสินใจดูนะครับ เอาไว้เป็นแนวทางให้คนที่มีความฝันอยากทำธุรกิจนี้ แต่…วิธีการนี้แน่นอนว่าต้องลงแรง มากกว่าวิธีการซื้อเฟรนไชส์ที่เค้ามีให้พร้อมทุกอย่างอยู่แล้ว แต่ก็แลกกับเงินลงทุนที่น้อยกว่ากันเยอะมาก ลองดูนะครับ!! สู้ๆ

 

ทำเลที่ตั้งที่ดีมีผลต่อความเป็นไปได้หลาย ๆ อย่าง
1.ทำเล มองหาแหล่งที่ตั้งของร้าน ดูความเป็นไปได้ ลู่ทางในการขาย ราคา กลุ่มลูกค้า ค่าเช่า เป็นต้น เลือกตามที่เห็นว่าเหมาะสมกับตัวเองนะครับ

 

เคาเตอร์ นอกจากจะใช้ทุนน้อยแล้ว ยังสามารถพรีเซนต์ตัวสินค้าได้อย่างชัดเจน
2.รูปแบบร้าน เป็นร้าน(ล็อคเช่า) เป็นเคาเตอร์(คีออส) หรือเป็นรถเข็น เลือกตามความเหมาะสมด้วยเช่นกันครับ แต่จากการเก็บข้อมูลแอดฯพบว่า ร้านเฟรนไชส์ชื่อดังส่วนใหญ่ นิยมทำร้านในรูปแบบเคาเตอร์ และมีป้ายชื่อร้าน(เด่นๆ) และจัดวางอุปกรณ์ที่สามารถมองออกได้ว่าเป็นร้านที่จำหน่ายเครื่องดื่มชา-กาแฟ อาจมีธงไวนิล(ธงญี่ปุ่น)ตั้งไว้หน้าร้าน เป็นการเพิ่มจุดสังเกตให้กับผู้คนผ่านไปมาได้อีกด้วยครับ
ปล.ธงญี่ปุ่น 1ชุด ราคา 400-650 บาท หรือต้องการเพิ่มชุดโต๊ะ 1 ชุด ราคา 1,500-2,500 บาท
 
3.อุปกรณ์ สามารถหาซื้อได้ตามร้านจำหน่ายเครื่องครัว หรือร้านอุปกรณ์เบเกอรี่ รายการอุปกรณ์ตามนี้คือ แอดฯเลียนแบบรายการอุปกรณ์ตามเฟรนไชส์เจ้าดังเป๊ะๆเลยนะครับ

 

เลือกใช้อุปกรณ์ในการสะกัดน้ำชา-กาแฟดิบ ตามความสะดวกและเหมาะสม
  • อุปกรณ์ในการสะกัดน้ำชา-กาแฟดิบ แอดฯจะแยกออกเป็น 2 ประเภท หลักๆนะครับ
  1. เครื่องทำกาแฟ หรือ Espresso machine
  2. ถุงกรอง(แบบโบราณ) หรืออุปกรณ์อื่นๆเช่น ถ้วยกรอง(แบบเวียดนาม) หม้อโมก้า(Moka pot) การดริป(กรองด้วยเยื่อกระดาษ) เครื่องไซฟ่อน(Syphon) เป็นต้น

 

อุปกรณ์ที่สำคัญมากอีกชุดนึง จำเป็นต้องมีให้ครบ
  • อุปกรณ์ในการชง
  1. ถังต้มน้ำร้อน (ขนาด 6.8 ลิตร HW ราคา 2500 บาท ) 3 ใบ
  2. กระติกน้ำร้อน ราคา 800 บาท 1 ใบ
  3. เครื่องตีฟองนมไฟฟ้า ราคา 900-1,200 บาท 2 อัน (สำรอง)
  4. แก้วชง (แก้ว หรือสแตนเลส)
  5. แก้วตวงขนาด 6 ออนซ์ และ 1.5 ออนซ์ (แบบมีสเกล) หรือจอกตวงขนาด 1 และ 0.5 ออนซ์
  • อุปกรณ์เบ็ดเตล็ดอื่นๆ
  1. ถาดพลาสติกสำหรับรองชง 2 ใบ
  2. เหยือกชักชา 3 ใบ
  3. จวักขนาด 4 นิ้ว 1 อัน
  4. กระบวยตักน้ำร้อน 1 อัน
  5. ถุงชักชา 3 อัน
  6. ที่คีบสแตนเลส 1 อัน
  7. กระปุกใส่วัตถุดิบ+ช้อนตวง 6 กระปุก
  8. กระป๋องใหญ่ใส่ผงชา 2 กระป๋อง
  9. ที่คั้นมะนาว 1 อัน
  10. ขวดบีบนมจัมโบ้ 3 ใบ
  11. ที่เปิดกระป๋องนม 1 ชิ้น
  12. ลังใส่น้ำแข็ง 1 ลัง
  13. ที่ตักน้ำแข็ง 1 ชิ้น
  14. จุกปิดโซดา 1 ชิ้น
  15. กระปุกใส่หลอด 1 ใบ
  16. สายหิ้วแก้วเดี่ยว 1 แพ็ค
  17. สายหิ้วแก้วคู่ 1 แพ็ค
  18. ถุงร้อนสำหรับใส่แยกน้ำ 4.5×7 นิ้ว 1 แพ็ค
  19. ถุงหูหิ้ว 1 แพ็ค
  20. แก้ว 16 หรือ 22 ออนซ์ 10 แถว
  21. ฝาโดม 10 แถว
  22. หลอดงอจัมโบ้ 2 ห่อ
รายการประมาณนี้ จะมีค่าทั้งหมดรวมกันประมาณ 15,000-20,000 บาท (ไม่นับรวมเครื่องทำกาแฟนะครับ)
ข้อแนะนำ : ควรเลือกซื้ออุปกรณ์ที่สำคัญเป็นอันดับแรก และในจำนวนที่เหมาะสมนะครับ

 

นึกวัตถุดิบชาคุณภาพ นึกถึงบลูมอคค่า ( Blue-mocha’ )
4.วัตถุดิบ แบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก ครับ
  • วัตถุดิบชา และกาแฟ ถือว่าเป็นส่วนที่สำคัญมากครับ ทางโรงคั่วชาบลูมอคค่า ของเรามีวัตถุดิบใบชาให้เลือกมากกว่า 8 ชนิด ผงมัทฉะ รวมไปถึงวัตถุดิบกาแฟ ที่มีความหลากหลาย ล้วนแต่ผลิตด้วยความตั้งใจ กรรมวิธีลับเฉพาะตามแบบฉบับของเราเอง เพื่อให้วัตถุดิบของเรา ได้กลายเครื่องดื่มที่ดี รสชาติอร่อย กลิ่นหอมถูกใจใครต่อใครที่ได้ลิ้มลองแน่นอนครับ แอดฯคอนเฟร์ม
  • ( ลิงค์วัตถุดิบชา – กาแฟ – มัทฉะ )
 
  • วัตถุดิบทั่วไป สามารถหาซื้อได้ตามร้านเบเกอรี่
  1. ผงโกโก้ (ยี่ห้อ ทิวลิป)
  2. น้ำตาลทราย (ยี่ห้อ มิตรผล)
  3. ครีมเทียม (ยี่ห้อ Coffee dreamy)
  4. นมสด (ยี่ห้อ เมจิ)
  5. นมข้น (ยี่ห้อ คาเนชั่น)
  6. ผงมะนาว (ยี่ห้อคะนอร์)
  7. ไซรัปติงฟง ( รสผลไม้ต่างๆ )
  8. ไซรัปลองบีช ( รสวนิลา,คาราเมล )
  9. โซดา
  10. น้ำผึ้ง
ข้อแนะนำ : สามารถปรับเพิ่ม-ลด เปลี่ยนแปลง ได้ตามความเหมาะสมนะครับ

 

เมนูพื้นฐาน อย่างน้อย 20 รายการ
5.รายการเมนู เตรียมเมนูที่จะขาย ทั้งชา กาแฟ และอื่นๆ อย่างน้อย 20 รายการ อาทิเช่น เมนูใส่นม เมนูเย็นแบบใส เมนูผสมมะนาว เมนูผสมน้ำผึ้ง เมนูอินตาเลี่ยนโซดา นอกจากนี้ยังมีเมนูอื่นๆ อีกเยอะแยะเลยครับ เข้าไปดูเมนูแปลกใหม่ไว้เป็นไอเดียเพิ่มเติมได้ที่ ( ลิ้งค์กลุ่มแบ่งปันสูตร )

 

 
 
 

มีทั้งข้อมูลตัวหนังสือ และรูปภาพ เข้าใจง่าย ทำตามได้ไม่ซับซ้อน

6.สูตรในการชง แล้วจะไปเอาสูตรจากไหน? ทำไม่เป็นจะทำได้มั้ย? บลาๆ ฟังดูวุ่นวายใช่มั้ยครับ ใจเย็นๆไม่ต้องรีบร้อนกระวนกระวายไปครับ แอดฯจะบอกให้ฟังนะครับว่า เพียงแค่สั่งซื้อวัตถุดิบชา หรือกาแฟของเราไป เรามีสูตร สำหรับเมนูชา – กาแฟ – มัทฉะ – นมสด – โกโก้ รวมแล้วมากกว่า 50 รายการเลยครับ แถมให้ฟรี!! ย้ำเลยครับว่า FREE!!! ( ลิ้งค์สูตร )

7.คำนวณต้นทุน-กำไร แอดฯมีวิธีการคำนวนต้นทุนของเครื่องดื่มต่อแก้ว โดยละเอียดมาให้ลองเอาไปใช้กันได้เลยครับ (ลิ้งค์เว็บไซต์ที่มีข้อมูล) โดยเฉลี่ยต้นทุนจะตกอยู่แก้วละ 13-15 บาท (ไม่นับค่าแรง/ค่าเช่า/ค่าก่อสร้างร้าน/อื่นๆ) คำนวณโดยการเปรียบเทียบจากวัตถุดิบและอุปกรณ์ที่ใช้ต่อแก้วนะครับ

สรุปค่าใช้จ่าย

แอดฯขอสรุปค่าใช้จ่ายทั้งหมดโดยประมาณ ให้พอได้เห็นภาพกันได้ชัดเจนยิ่งขึ้นนะครับ (หากไม่มีรายจ่ายข้อไหนก็ตัดออกได้เลยครับ)

1.ค่าเคาเตอร์ 4,000-10,000 บาท (แบบธรรมดา) 2.ค่าตกแต่งร้าน ป้ายญี่ปุ่น ป้ายเมนู 3,000 บาท 3.ค่าอุปกรณ์ครบชุด 15,000-20,000 บาท 4.ค่าวัตถุดิบ(ผงชา 8 ชนิด+กาแฟ) 3,000-5,000 บาท 5.ชุดโต๊ะเก้าอี้ (ถ้ามี) 2,500 บาท 6.ค่าเช่าร้าน……….. บาท (อันนี้ต้องใส่เอาเองนะครับ)

รวมแล้วประมาณ 30,000-40,000 บาท ก็สามารถเปิดร้านได้แล้วละครับ

ขอให้ร้านในฝันกลายเป็นจริงนะครับ

ถึงแม้จะดูเหมือนว่าธุรกิจนี้เกิดขึ้นเต็มไปหมด แต่ด้วยเงินลงทุนที่ไม่สูงมากนัก ถ้าใครมีความคิด ตั้งใจและอยากที่จะทำ ก็ควรลองดูสักตั้งไม่เสียหาย ตราบใดที่ยังมีคนเดินหิ้วแก้วเครื่องดื่มเดินไปเดินมากันอยู่ ธุรกิจนี้ก็ยังน่าจะไปได้นะครับ

แอดฯอยากฝากถึงใครหลายๆคนว่า แค่ความอยากที่จะทำ เท่านั้นยังไม่พอครับ ยังจะต้องมีความตั้งใจ ขยัน และอดทนด้วย ในโลกแห่งความเป็นจริงหลายๆสิ่งอาจไม่สวยหรู หรือเป็นไปอย่างที่เราคาดหวังไว้เสมอ แต่แอดฯเชื่อเหลือเกินว่า ความตั้งใจ มุมานะ และอดทน จะพาทุกๆคนผ่านทุกอุปสรรคและปัญหาต่างๆไปได้ สุดท้ายนี้แอดฯหวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์กับทุกคนนะครับ