ขายชาไทยเชียงใหม่

เปิดร้านกาแฟ / นักชงกาแฟ / มือใหม่ / มือเก่า / สูตรชงชา / สูตรกาแฟ/สูตรชา | สูตรชงชา |สูตรชงกาแฟ | สูตรกาแฟ | สูตรกาแฟฟรี | สูตรชาฟรี

ขายชาไทยเชียงใหม่

ขายชาไทยเชียงใหม่วันนี้จะมาแนะนำการเลือกเครื่งชงชา ยอดนิยมเหมาะสำหรับการชงชาและการชงกาแฟ

สำหรับใครที่ชอบ ดื่มกาแฟเป็นประจำ เครื่องชงกาแฟสด จะเป็นอุปกรณ์หนึ่ง ที่ช่วยอำนวยความสะดวก ให้คุณมีกาแฟร้อนๆ ไว้ดื่มตลอดเวลา และสามารถทำได้เองที่บ้าน โดยไม่ต้องเสียเงิน ไปซื้อกาแฟราคาแพง มารับประทาน แต่การเลือก เครื่องชงกาแฟ พร้อมปรุงรสชาติกาแฟ ให้กลมกล่อม และมีคุณภาพดี ซักเครื่อง มาเป็นเพื่อนคู่ใจ ก็เป็นเรื่องที่ ตัดสินใจยากเหมือนกันนะคะ เพราะแต่ละยี่ห้อ มีฟังก์ชั่นการทำงาน ที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นทางเราจึงได้ รวบรวมรายละเอียดของ เครื่องชงกาแฟ ยี่ห้อต่างๆ เพื่อให้ทุกคนได้ตัดสินใจ เลือกซื้อได้ง่ายขึ้น

ก่อนที่เราจะทำการแนะนำอันดับเครื่องชงกาแฟ ก่อนอื่นเราจะมาแนะนำสิ่งสำคัญในการเลือกซื้อเครื่องชงกาแฟกัน แน่นอนว่ามีทั้งเรื่องที่ทำให้น่าแปลกใจ รวมไปถึงเรื่องที่เราอาจจะมองข้ามไป

 

เลือกจากชนิดของเครื่องชงกาแฟ

ถ้าพูดถึงเครื่องชงกาแฟ แน่นอนว่าแบบที่เราน่าจะนึกถึงกันเป็นแบบแรกคงหนีไม่พ้นเครื่องชงกาแฟแบบดริป แต่จริง ๆ แล้วก็ยังมีอีกมากมายหลายประเภทที่มีคุณสมบัติแตกต่างกันไป ลองพิจารณาเลือกตามความสะดวกและความชอบของตัวเองดู

 

เครื่องชงกาแฟแบบดริป

 

เครื่องชงกาแฟแบบดริปถือเป็นแบบที่ทุกคนรู้จักมากที่สุด เพียงแค่วางกระดาษกรอง แล้วตักผงกาแฟบดใส่ลงบนกระดาษกรอง จากนั้นก็เปิดเครื่องให้น้ำร้อนไหลผ่านก็เสร็จเรียบร้อย

กาแฟที่ดริปออกมาจะถูกเก็บไว้ในเหยือกที่ทำมาจากแก้วหรือสแตนเลสซึ่งแต่ละแบบก็มีความสามารถในการรักษาอุณหภูมิที่แตกต่างกันไป สำหรับคนที่ดื่มกาแฟทันทีหลังจากดริปเสร็จแนะนำให้ใช้เหยือกแก้ว แต่ถ้าใครอยากค่อย ๆ ดื่มไม่ต้องรีบร้อนก็เสนอให้ใช้เหยือกสแตนเลสที่รักษาอุณหภูมิได้ดีกว่าค่ะ

อีกอย่างที่ควรพิจารณาคือตัวกรองกาแฟหรือ Dripper ก็จะมีแบบกรองจากช่องเดียว หรือกรองจากหลายช่อง ถ้าแบบช่องเดียว ก็จะสามารถกรองกาแฟออกมาได้รสที่เข้มข้นแต่ใช้เวลา ถ้าแบบหลายช่องจะกรองได้เร็วกว่า และได้รสชาติกาแฟที่ดื่มง่าย หากคุณมีตัวกรองคู่ใจอยู่แล้วอยากมาใช้กับเครื่องดริปก็อย่าลืมว่าต้องเช็คขนาดก่อนว่าเข้ากันกับเครื่องหรือเปล่านะคะ

นอกจากตัวเครื่องที่ทำให้รสชาติกาแฟแตกต่างไปแล้วกาแฟที่ใช้ก็เป็นส่วนสำคัญในการกำหนดรสชาติ สำหรับคนที่อยากเพลิดเพลินกับกาแฟได้ง่าย ๆ ก็ให้ซื้อกาแฟที่บดแล้วมาใส่ แต่ถ้าใครอยากพิถีพิถันในการดื่มสักหน่อยก็ให้ซื้อกาแฟแบบเมล็ดมาบดเองก่อนที่จะเอาไปดริป ก็จะได้รสชาติกาแฟที่สดใหม่มากขึ้น

 

เครื่องชงกาแฟแบบแคปซูล

 

สำหรับเครื่องชงกาแฟแบบแคปซูล แค่กดปุ่มเพียงปุ่มเดียวคุณก็จะได้กาแฟมาดื่มอย่างง่าย ๆ เหมาะสำหรับช่วงเวลาเร่งรีบในตอนเช้า ตรงความต้องการของคนที่ไม่อยากยุ่งยากในการชงกาแฟแบบเมล็ด

ผงกาแฟที่แบ่งบรรจุในแต่ละแคปซูลเป็นจำนวนที่เหมาะสมในการชงกาแฟต่อแก้วอยู่แล้วจึงไม่ต้องกังวลในการตวงกาแฟ หรือไม่ต้องกลัวว่าผงกาแฟจะหกเลอะเทอะ และข้อดีอีกอย่างของเครื่องชงกาแฟแบบแคปซูลคือสามารถเซ็ตลงเครื่องและดูแลทำความสะอาดได้ง่ายกว่าแบบอื่น ๆ ในปัจจุบันมีรสชาติให้เลือกมากมายช่วยให้คอกาแฟสนุกสนานกับการเลือกชนิดกาแฟมากขึ้นด้วย

 

เครื่องชงกาแฟแบบไซฟอน

 

เครื่องชงกาแฟแบบไซฟอน (Syphon) เป็นการชงกาแฟอย่างมีสไตล์ จุดเด่นคือเราสามารถเห็นทุกขณะที่กาแฟถูกสกัดออกมา และตัวเครื่องก็มีรูปร่างเป็นเอกลักษณ์ที่เก๋ไก๋ เป็นไอเทมเอาไว้ประดับบ้านก็ยังได้ แต่เนื่องจากเป็นการกรองกาแฟโดยใช้แรงดันจากไอน้ำที่ต้องการเทคนิคในการชงของผู้ใช้งานพอสมควร จึงอาจจะไม่เหมาะกับการชงทั่วไป แต่ก็เป็นเครื่องชงกาแฟชนิดที่ปลอดภัย และน่าสนใจ ที่อยากให้นักดื่มกาแฟตัวจริงได้ลองใช้ดูเช่นกัน

 

เครื่องชงกาแฟแบบเอสเปรสโซ

 

เครื่องชงกาแฟแบบเอสเปรสโซหรือเครื่องชงกาแฟสด จะมีทั้งแบบที่เป็นแมนนวลที่เราต้องใส่ผงกาแฟหรือกาแฟพ็อดเข้าไปเองและแบบอัตโนมัติทั้งหมดที่ทำตั้งแต่บดเมล็ดกาแฟไปจนถึงชงกาแฟออกมาให้เราเสร็จสรรพ หรือบางแบบที่มี Dripper ในตัวด้วย เรียกได้ว่าเป็นเครื่องชงกาแฟที่มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบในปัจจุบันไม่ได้หยุดแค่การทำกาแฟเอสเปรสโซ่เพียงอย่างเดียว

เครื่องชงกาแฟแบบเอสเปรสโซ่จะเป็นเครื่องที่ใช้เทคโนโลยีในการผลิตที่ค่อนข้างสูงกว่าชนิดอื่น ๆ การเลือกโดยดูจากราคาก็เป็นมาตรฐานในการตัดสินใจที่ดีอย่างหนึ่ง หากต้องการดื่มกาแฟที่อร่อย ๆ ก็แนะนำให้เลือกเครื่องที่มีราคาประมาณ 1 หมื่นบาทเป็นต้นไปและมีค่าแรงดันในการกรองกาแฟเป็นอย่างน้อยที่ระดับ 9 บาร์

 

ลักษณะอื่น ๆ ของเครื่องชงกาแฟที่ควรพิจารณา

นอกจากชนิดของเครื่องชงกาแฟแล้วมีเรื่องอะไรที่ควรพิจารณาในการเลือกซื้อบ้าง สามารถสังเกตได้จากไลฟ์สไตล์ของคุณเอง

 

ขนาดของเครื่องชงกาแฟ และปริมาณกาแฟที่สามารถบรรจุได้

 

เนื่องจากเป็นอุปกรณ์ที่เราวางทิ้งไว้ในครัวหรือในห้องรับประทานอาหารตลอดเวลา เพื่อไม่ให้ดูเกะกะขวางทางหรือดูรกตา ในการเลือกเครื่องชงกาแฟเราจึงควรต้องคำนึงถึงขนาดเครื่องชงกาแฟที่เหมาะสมกับสถานที่วางด้วย ส่วนปริมาณบรรจุของเหยือกกาแฟที่เหมาะสมเราสามารถคำนวณได้จากจำนวนคนที่ดื่มกาแฟ และปริมาณที่ดื่มต่อคน  กาแฟ 1 แก้วจะมีปริมาณที่ 140 ml ลองคำนวณดูจากตัวเลขดังกล่าวเพื่อหาปริมาณบรรจุที่สมควรรองรับได้ของเครื่องชงกาแฟของเรา อาจจบวกเพิ่มนิดหน่อยเผื่อโอกาสพิเศษอย่างกรณีที่ต้องรับแขก แค่นี้ก็จะได้เครื่องชงกาแฟที่ใช้ได้สะดวกแล้วค่ะ

 

ความง่ายในการดูแลรักษา

 

ถ้าเครื่องชงกาแฟที่ใช้อยู่เป็นแบบที่ดูแลรักษายาก เราก็คงเบื่อกับการทำความสะอาดและไม่อยากหยิบมาใช้ในที่สุด ก่อนซื้อเราจึงควรพิจารณาส่วนประกอบต่าง ๆ ของเครื่องว่าโครงสร้างเครื่องซับซ้อนหรือไม่ ชิ้นส่วนต่าง ๆ ถอดมาล้างได้ง่ายหรือเปล่า การเลือกเครื่องชงกาแฟที่ดูแลรักษาง่ายก็จะทำให้เราใช้ได้นานด้วยค่ะ

ที่สำคัญอีกอย่างที่ควรตรวจสอบก่อนตัดสินใจซื้อคือเรื่องบริการหลังการขาย หากเครื่องทำงานผิดปกติสามารถส่งซ่อมได้หรือเปล่า ชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่อาจเกิดการแตกหักเสียหายนั้นมีอะไหล่แยกขายต่างหากหรือไม่ จะได้แก้ไขสถานการณ์ได้อย่างราบรื่นไม่เป็นปัญหาทีหลังนะคะ

 

อย่าลืมเช็คฟังก์ชันอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

 

เครื่องชงกาแฟที่ออกจำหน่ายในปัจจุบันมีฟังก์ชันการทำงานหลากหลายให้เลือก ไม่ว่าจะการตั้งเวลาเปิด-ปิดการทำงาน การอบผงกาแฟ หรือฟังก์ชันเสริมในการทำฟองนมแสนอร่อย ยิ่งเครื่องที่ราคาสูงก็มักจะมีฟังก์ชันมากขึ้น ซึ่งก็แล้วแต่ความต้องการของผู้ใช้ว่าอยากได้เครื่องแบบไหนลองพิจารณาตามงบประมาณของตัวเองดู