เตรียมพร้อมร้านกาแฟ ไม่ให้เป็นพื้นที่เสี่ยงห่างไกลโควิด-19

ร้านกาแฟ

ร้านกาแฟ สถานที่ที่มีอยู่เกือบทุกประเทศบนโลกนี้ และแค่ในประเทศไทยเราเองก็คงมีมากกว่าหมื่นร้าน ในหนึ่งจังหวัดก็คงมีมากสูงสุดเกือบพันได้ อย่างจังหวัดเชียงใหม่ เพียงถนนนิมมานเหมินทร์ก็พบว่ามีร้านกาแฟเยอะมาก เราจึงจะพบว่าร้านกาแฟมีทุกที่จริง ๆ

จากสถานการณ์โควิด-19 ที่เริ่มเกิดขึ้นเมื่อปลายปี 2019 ในเดือนธันวาคม เป็นโรคที่เกิดขึ้นใหม่ ไม่เคยเป็นที่รู้จักกันมาก่อนในวงการแพทย์ทั่วโลก โดยโรคโควิด-19 คือ โรคติดต่อซึ่งเกิดจากไวรัสโคโรนาชนิดที่มีการค้นพบล่าสุด ก่อนที่จะมีการระบาดในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน เป็นพื้นที่แรก และในขณะนี้ได้มีการระบาด ส่งผลกระทบไปยังหลายประเทศทั่วโลก

ร้านกาแฟ

รวมถึงประเทศไทยเราเอง ก็พบว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นในทุกวัน ยิ่งในปัจจุบันนี้พบว่ามีผู้ติดเชื้อภายในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสมสูงถึง 9,331 ราย เสียชีวิตแล้ว 66 ราย ผู้ป่วยรักษาหายแล้ว 4,418 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 6 มกราคม 2564)

ร้านกาแฟ สถานที่ที่มีผู้คนเดินทางเข้าไปใช้บริการอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา บางร้านเปิดทุกวัน บางร้านเปิด 24 ชั่วโมง ความสะอาดจึงสำคัญมาก และในยิ่งสถานการณฺ์แบบนี้ที่มีโรคโควิด-19 จึงทำให้ทางร้านกาแฟเอง ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการเอง มีความเสี่ยง การดูแลความสะอาดร้านกาแฟ หรือในทุกจุดที่มีการสัมผัสอย่างประตู เก้าอี้ จึงสำคัญมาก

8 วิธี เตรียมพร้อมดูแล ร้านกาแฟ ไม่ให้เป็นพื้นที่เสี่ยง

1.หน้าร้านต้องพร้อม

บริเวณหน้าร้านกาแฟของเรา จะเป็นจุดหนึ่งที่ลูกค้าทุกคนต้องผ่าน ซึ่งแต่ละคนก็ล้วนมาจากพื้นที่ต่างกัน หน้าร้านของเราจึงต้องควรมีเจลแอลกอฮอล์เพื่อให้ใช้ก่อนเข้าใช้บริการภายในร้าน มีทิชชู่เพื่อลดการสัมผัสประตู หรือจุดอื่น ๆ โดยตรง มีเอกสารให้ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการได้ลงชื่อ ทั้งบันทึกเวลาเข้า-ออกร้าน มีคิวอาร์โค้ดของแอปพลิเคชันไทยชนะให้สแกนสำหรับผู้ที่สะดวกในการสมาร์ทโฟน อาจจะมีหน้ากากอนามัยไว้ให้บริการ สำหรับผู้ที่ต้องการเข้ามาซื้อ กาแฟ ชา แต่ไม่ได้พกหน้ากากอนามัยติดตัวมา หรือจะมีอ่างล้างมือ สบู่ ไว้ให้บริการด้วยก็ได้ และบ้างร้านอาจจะมีพนักงานที่มาบริการคอยวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้าร้านก็ได้เช่นกัน

ร้านกาแฟ

2.ที่นั่งในร้านต้องไม่ชิดกัน

จำนวนที่นั่งในร้านสำคัญมากในการเปิดร้านกาแฟ เพราะส่วนใหญ่ต้องมีพอให้ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ แต่ในช่วงสถานการณ์แบบนี้ ควรมีการติดป้ายที่เก้าอี้ว่า “ห้ามนั่ง” เพื่อเว้นระยะห่างในการนั่งชิดกัน ช่วยลดความเสี่ยงได้เพิ่มขึ้น หรือาจจะลดจำนวนเก้าอี้ลง

3.ตกแต่งภายในร้านไม่ให้อึดอัด

เชื่อว่าในสถานการณ์แบบนี้ ในพื้นที่เสี่ยง หรือในสถานที่ที่มีคนเข้าออกอยู่บ่อย จะทำให้หลาย ๆ คนเริ่มกังวล และไม่อยากจะเข้าไปใช้บริการ จึงควรที่จะตกแต่ง จัดมุมภายในร้านใหม่ เพื่อให้ดูโล่ง สบายตา ไม่ดูอึดอัด อาจจะลดจำนวนโต๊ะ เก้าอี้ภายในร้าน นำต้นไม้ฟอกอากาศมาตกแต่งให้ร้านดูมีความเป็นธรรมชาติ จะทำให้ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการรู้สึกสบายใจ

4.เพิ่มพื้นที่ในร้าน

เมื่อลูกค้าเข้ามาซื้อกาแฟพร้อม ๆ กัน จะพบว่ามักยืนติดกันเพื่อรอสั่ง หรือรอรับกาแฟ แต่ในช่วงนี้ทางร้านกาแฟเอง ก็ควรเพิ่มพื้นที่ให้มีที่รอสั่ง รอรับกาแฟ และอาจจะทำสัญลักษณ์ติดพื้น โดยเว้นระยะห่าง เพื่อให้ลูกค้ารู้ว่าเมื่อเข้ามาแล้วควรยืนตรงจุดไหน แต่ก็ต้องคำนึงว่า ควรจัดพื้นที่อย่างไรให้ลูกค้ารู้สึกว่าพื้นที่ที่อยู่ ไม่ได้รู้สึกเกะกะ ไม่ได้รู้สึกว่ากำลังยืนขวางลูกค้าคนอื่น ๆ ภายในร้าน

5.ความปลอดภัยภายในร้านสำคัญยิ่ง

จะสังเกตได้ว่าบางร้านกาแฟจะมีเจลแอลกอฮอล์วางให้บริการเพียงหน้าร้าน แต่ต้องอย่าลืมสิเมื่อลูกค้าเข้าร้านมาแล้ว ก็ต้องได้สัมผัสกับโต๊ะ เก้าอี้ หรือพื้นผิวอื่น ๆ จึงควรมีเจลแอลกอฮอล์วางไว้ภายในร้าน ทิชชู่ ถังขยะ อาจจะหาที่ไว้ซัก 2 – 3 จุด แล้วแต่พื้นที่ภายในร้านว่ากว้างมากแค่ไหน และเมื่อลูกค้าลุกจากโต๊ะ เก้าอี้ ก็ควรทำเช็ดความสะอาดทุกครั้ง ร้านไหนลูกค้าต้องสัมผัสประตูก่อนเข้าร้านทุกครั้ง ต้องอย่าลืมหมั่นเช็ด

ร้านกาแฟ

6.ห้องน้ำเรื่องที่มองข้ามไม่ได้

ร้านกาแฟบางร้านจะมีห้องน้ำให้บริการ ห้องน้ำอาจจะอยู่ภายในร้านหรือนอกร้านก็ได้ แต่เชื่อว่าหลาย ๆ ร้าน เมื่อต้องให้บริการลูกค้าภายในร้าน ก็มักจะลืมให้ความสำคัญกับห้องน้ำ อยากจะบอกว่าเมื่อลูกค้าอยากเข้าห้องน้ำ แต่เมื่อไปถึงแล้วพบว่าห้องน้ำไม่สะอาด ไม่มีทิชชู่ พื้นเลอะ ก็จะไม่อยากเข้าใช้ และอาจจะเป็นตัวตัดสินใจว่าไม่อยากมาร้านนี้อีกเพราะห้องน้ำสกปรก ทางร้านกาแฟเองควรที่จะหมั่นมาดูความสะอาดของห้องน้ำ และคอยเช็กว่าทิชชู่ใก้ลหมดหรือยัง ถังขยะในห้องน้ำเต็มถังหรือยัง การใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย จะทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าทางร้านกาแฟให้ความสำคัญกับลูกค้าอย่างมาก

7.บริการเดลิเวอรี่ อยู่ที่ไหนก็สั่งได้

ยิ่งมีข่าวว่าเริ่มพบผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น มีพื้นที่เสี่ยงเพิ่มขึ้นมาในหลาย ๆ พื้นที่ จะทำให้ลูกค้าเริ่มไม่อยากออกจากบ้าน ไม่อยากจะไปร้านกาแฟ แต่จะทำยังไงให้ลูกค้ายังได้ดื่มกาแฟร้านเราได้โดยที่ไม่ต้องออกจากบ้าน บอกเลยว่าบริการเดลิเวอรี่นี่แหละเหมาะที่สุดแล้ว ทางร้านอาจจะเข้าร่วมกับบริษัทที่ทำการรับซื้อ-ส่ง อาหาร เครื่องดื่ม และทำการเดลิเวอรี่เองอีกช่องทางหนึ่ง เพื่อให้มีรายได้ต่อเนื่อง

8.ประชาสัมพันธ์จากทางร้านที่ลูกค้าต้องรู้

หลาย ๆ ร้านกาแฟชื่อดัง มักจะมีลูกค้าประจำที่ชอบมาซื้อ มานั่งดื่ม แต่ในสถานการณ์แบบนี้ ร้านกาแฟเองอาจจะมีการปรับเปลี่ยน เวลาเปิด-ปิดร้าน ให้ไวขึ้น หรือบางร้านที่อยู่ใกล้กับพื้นที่เสี่ยง อาจจะต้องปิดร้านเพื่อลดความเสี่ยง ร้านกาแฟจึงควรมีช่องทางการประชาสัมพันธ์ให้ลูกค้ารับรู้ ว่าร้านมีนโยบายอะไรบ้างในช่วงนี้ หรืออาจจะอัปเดตข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ถ่ายภาพเหตุการณ์ ณ เวลานั้น ๆ ให้ลูกค้าได้ทราบว่าทางร้านมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการมากน้อยแค่ไหน เพื่อจะทำให้ลูกค้าคนอื่น ๆ ได้วางแผนว่าควรไปร้านกาแฟเวลาไหน เตรียมตัวอย่างไรบ้าง

โควิด-19 ไม่ใช่เรื่องที่ควรมองข้าม ยิ่งในช่วงสถานการณ์แบบนี้ความปลอดภัยของลูกค้า พนักงานในร้าน สำคัญทุกคน และเจ้าของร้านกาแฟเองก็ควรที่จะติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างต่อเนื่อง จากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือได้ และไม่ตื่นตระหนกจนเกินไป ต้องมีสติ และวางแผนเพื่อให้ร้านกาแฟดำเนินไปต่อได้ในสถานการณ์แบบนี้

หากอยากติดตามสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย สามารถติดตามผ่านทางเพจเฟซบุ๊กศูนย์ข้อมูล COVID-19 หรือเพจเฟซบุ๊กไทยรู้สู้โควิด ซึ่งเป็นเพจของทางรัฐบาลที่จัดทำขึ้นเพื่อนำเสนอข้อมูลให้ประชาชนรับทราบ และติดตามสถานการณ์ได้อย่างต่อเนื่อง ย้ำ ! ต้องติดตามข้อมูลข่าวสารจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ