รู้เฟื่องเรื่องชาอัสสัม ต้นตำรับชานมไข่มุก

รู้เฟื่องเรื่องชาอัสสัม ต้นตำรับชานมไข่มุก

ชาอัสสัม (Assam Tea) คือ หนึ่งในชาดำสุดคลาสสิคประจำประเทศอินเดียที่นิยมกันทั่วโลก และเราก็คงเคยได้ยินผ่านหูกันมาบ้างแล้ว ไม่ว่าจะด้วยรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ หรือกลิ่นอันหอมหวานชื่นใจ

รู้เฟื่องเรื่องชาอัสสัม ต้นตำรับชานมไข่มุก

          ชาอัสสัมมักนิยมปลูกกันมากในรัฐอัสสัม ประเทศอินเดีย และด้วยรสชาติที่มีเอกลักษณ์ รวมถึงกลิ่นหอมหวานดึงดูดใจ จึงทำให้ชาอัสสัมเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน

          แรกเริ่มเดิมทีชาอัสสัมจะถูกปลูกทางตอนเหนือของประเทศอินเดีย จนในเวลาต่อมาที่ได้รับความนิยมมากขึ้น การปลูกในสถานที่เดิมและสถานที่เดียวเท่านั้น จึงไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด การเพาะปลูกจึงต้องขยายออกไปในเมืองต่างๆ รวมถึงต่างประเทศ ซึ่งในประเทศไทยก็มีการเพาะปลูกชาชนิดนี้ด้วยเช่นกัน ส่วนใหญ่แล้วจะปลูกกันที่จังหวัดเชียงใหม่ในส่วนที่เป็นภูเขาสูง เพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดีเทียบเท่ากับต้นฉบับนั่นเอง

รู้เฟื่องเรื่องชาอัสสัม ต้นตำรับชานมไข่มุก

รู้เฟื่องเรื่องชาอัสสัม ต้นตำรับชานมไข่มุก

ลักษณะของใบชาอัสสัมเวลาแห้งจะเป็นสีดำ และบางครั้งมักจะมีดอกตูมสีทองแซมมาด้วย เมื่อนำไปแช่น้ำ ใบชาจะกลายเป็นสีแดงหรือสีน้ำตาลเข้ม

          ชาดำนี้ไม่เหมือนกับชาเขียวหรือชาขาว เพราะผ่านการออกซิไดซ์ (Oxidized)  เกือบ 100% ส่งผลทำให้มีรสชาติที่เข้มขึ้น และด้วยรสชาติที่เข้มข้นนี้ ชาอัสสัมจึงนิยมนำไปเบลนด์เป็น English Breakfast Tea หรือจะผสมกับนมชงเป็นชานม (Milk Tea) ก็ได้ นอกจากนี้ ชาอัสสัมยังมีอายุการเก็บที่นานกว่าชาชนิดอื่นๆ อีกด้วย

ชาอัสสัมคืออะไร

จากข้อมูลข้างต้นอาจจะยังตัดสินไม่ได้ทั้งหมดว่าทำไมชาอัสสัมหรือชาแดงจึงเป็นต้นตำรับของชานมไข่มุก และแน่นอนว่าในตัวของชานมเองย่อมต้องเลือกคุณสมบัติของชาที่จะนำมาผสมนมด้วยเช่นกัน โดยชาที่นำมาทำชานมไข่มุก (Boba Milk Tea) จะต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้

  1. มีรสและกลิ่นของ “ชา” เข้มข้นพอสมควร เพราะเมื่อเทนมลงไปแล้ว กลิ่นและรสของนมจะได้ไม่ไปกลบกลิ่นและรสของชาจนเสียรสชาติดั้งเดิมของตัวชานั้นๆ ไป
  2. มีกลิ่นหอมหวานๆ เพราะกลิ่นหวานของชาจะเข้ากันดีกับกลิ่นของนม ทำให้ชานมที่ชงออกมามีรสและกลิ่นที่ลงตัวเข้ากันได้ดีมากยิ่งขึ้น

          จึงเป็นที่แน่นอนแล้วว่าชาที่มีคุณสมบัติดังกล่าวครบถ้วน ชงออกมาแล้วได้ชานมที่อร่อย จนถูกกล่าวว่าเป็นชาที่เหมาะสำหรับนำมาทำชานมมากที่สุดก็คงหนีไม่พ้น ชาอัสสัม (Assam) นั่นเอง

รู้เฟื่องเรื่องชาอัสสัม ต้นตำรับชานมไข่มุก

สำหรับสัดส่วนระหว่างน้ำชาอัสสัม กับนมสดในการทำชานมไข่มุกนั้น สามารถใส่ได้ตามความชอบของแต่ละคน แต่ควรลองใส่นมน้อยๆ ก่อน เพราะยิ่งเราใส่นมน้อย กลิ่นและรสของตัวชาจะยังคงมีอยู่มาก ทำให้ชานมไข่มุกของเราหอมกลิ่นชานั่นเอง

          แรกเริ่ม ควรลองใส่น้ำชาประมาณ 130 cc ต่อนม 8 cc ก่อน และถ้าคิดว่าอยากได้รสสัมผัสของนมเพิ่ม ก็ค่อยๆ ใส่นมเพิ่มลงไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ควรใส่นมมากเกินจนนมและชามีสัดส่วน 1:1 เพราะนมจะกลบรสชาติและกลิ่นของตัวชาไปจนหมดนั่นเอง

รู้เฟื่องเรื่องชาอัสสัม ต้นตำรับชานมไข่มุก

เกร็ดน่าสนใจรู้ไว้ไม่เสียหาย

          1. ชาที่มีรสชาติและกลิ่นเข้มข้นอย่างดาร์จีลิ่ง ก็สามารถนำมาทำเป็นชานมไข่มุกได้เช่นกัน เพียงแต่ชาดาร์จีลิ่งนั้น ในแต่ละปีสามารถผลิตได้น้อย และมีราคาสูง ถ้าหากนำมาทำชานมไข่มุกก็เสียดายกลิ่นและรสชาติของชาแย่ ดังนั้นชาดาร์จีลิ่งจึงเหมาะที่จะดื่มแบบเพียวๆ มากกว่า

          2. ชาแต่งกลิ่น หรือ Flavoured Tea ที่มีกลิ่นหวานจำพวก ชาคาราเมล ชาเมเปิ้ล ชาวานิลลา หรือแม้แต่ชาพีช ก็สามารถนำมาทำชานมได้เช่นกัน เพียงแต่รสชาติของชาจะไม่เข้มข้นเท่ากับชาอัสสัมเท่านั้นเอง